จับลูกทรพีคลั่งยา ขวานจามหัวพ่อดับ


เพิ่มเพื่อน    

จับลูกทรพีคลั่งยานรกถือขวานจามหัวพ่อขณะหลับดับคาห้องนอน โมโหขอเงินซื้อยาบ้าไม่ให้ สุดโหดลากไปทิ้งอำพรางแล้วกลับมาเช็ดคราบเลือด หลังก่อเหตุโทร.บอกพี่ชายที่ต่างจังหวัดว่าศพอยู่หลังบ้าน สืบประวัติพบลักทรัพย์-ติดยา ป่วยจิต ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก 
      วันที่ 14 ก.ค. เวลา 20.20 น. พ.ต.ท.สาโรจน์ ช่องรักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากนายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนัน ต.ทุ่งกระบือ ว่า พบศพชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต หลังบ้านเลขที่ 115 หมู่ 4 บ้านท่าบันได ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก. พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง รอง ผกก.(สอบสวน) กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง
    ที่เกิดเหตุเป็นซอยถนนดินแดง สุดซอยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณพื้นดินขอบบ่อน้ำทิ้งด้านหลังบ้าน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร มีหญ้าสูงประมาณ 60 ชม. ปกคลุมรกทึบ ขอบบ่อพบร่างของนายชาติ สองเมือง หรือหมิน อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพกรีดยางพารา มีเสื้อยืดสีครีมคลุมปิดทับศีรษะ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มือซ้ายห้อยลงไปในบ่อ ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 18 ชม. พบบาดแผลถูกจามด้วยขวานเข้าที่กลางกระหม่อม เป็นแผลขนาดเท่ากับขวาน จำนวน 1 แผล และที่หูขวา 1 แผล หัวไหล่ด้านซ้ายและแขนซ้ายเป็นแผลถลอก ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ย่านตาขาว
    ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปตรวจสอบ ทางนายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนัน ต.ทุ่งกระบือ พร้อมด้วยบรรดาญาติผู้เสียชีวิตได้ทำการเกลี่ยกล่อมนายกิตติศักดิ์ สองเมือง หรือหลิม อายุ 31 ปี อาชีพกรีดยางพารา ลูกชายผู้ตายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว เพื่อให้ออกมามอบตัวนานกว่า 1 ชม.จึงจะสำเร็จ พร้อมกันนั้นได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านไม่พบร่องรอยคราบเลือดแต่อย่างได ทั้งนี้พบของกลางเป็นขวาน หน้ากว้าง 3.5 นิ้ว มีด้ามจับเป็นไม้ยาวประมาณ 40 ซม. ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสอบสวน
    จากการสอบสวน นายกิตติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นยังคงให้การวกวน แต่รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพ่อตัวเองจริง โดยลงมือก่อเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณระหว่าง 01.00-03.00 น.ของคืนวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะและมีปากเสียงกับพ่ออย่างรุนแรง เนื่องจากตนเองขอเงินไปซื้อยาบ้า แต่ผู้เป็นพ่อไม่ให้ ระหว่างที่พ่อเข้าห้องนอนหลับอยู่ภายในห้อง ตนจึงถือขวานเข้าไปจามเข้าศีรษะและเสียชีวิตทันที ก่อนจะลากศพออกจากบ้านและไปทิ้งยังขอบบ่อหลังบ้าน และได้กลับมาทำความสะอาดบ้านเพื่อไม่ให้มีร่องรอยของคราบเลือด จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 14 ก.ค. โทร.ไปหาพี่ชายที่อยู่ต่างจังหวัดว่าตนลงมือฆ่าพ่อและนำศพไปทิ้งไว้หลังบ้าน ทำให้พี่ชายติดต่อมาที่ญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้กันให้ทราบเรื่อง
    ด้านนายศรชัย สองเมือง อายุ 37 ปี หลานผู้ตาย เล่าว่า บ้านอยู่ห่างกับบ้านผู้ตาย 100 เมตร คืนที่เกิดเหตุได้ยินเสียงพ่อกับลูกทะเลาะดังออกมาจากบ้าน เห็นเป็นเรื่องปกติพ่อลูกทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งเงียบไป ทุกเช้าผู้ตายจะมานั่งดื่มกาแฟที่บ้านตนเป็นประจำ แต่ปรากฏว่าเช้าวันที่ 14 ก.ค. ไม่ได้มา ตนสงสัยจึงเดินไปที่บ้าน พบเพียงลูกชายนั่งอยู่หน้าบ้าน สอบถามว่าผู้ตายไปไหน ลูกชายตอบว่าไม่รู้ แต่ท่าทีมีพิรุธ ตนกลับออกมาพร้อมรีบคุยกับญาติว่าให้ช่วยกันตามหา แต่ไม่พบ ช่วงบ่ายเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับบรรดาญาติเพื่อจะเข้าไปดูภายในบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุสั่งห้ามและกีดกันไม่ให้เข้า จึงได้ออกตามหากันอีกครั้ง จนกระทั่งพี่ชายของผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาแจ้งว่าผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าพ่อและนำศพไปทิ้ง ทำให้พบเป็นศพอยู่ที่จุดดังกล่าว
จากการพลิกแฟ้มประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุเคยต้องคดีลักทรัพย์ (ปาล์มน้ำมัน) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนถูกคุมขังและได้รับการปล่อยตัวออกมา รวมถึงมีประวัติเสพยาเสพติดชนิดยาบ้า น้ำต้มพืชกระท่อม และสารเสพติดเป็นระยะเวลานาน และมีอาการทางประสาทร่วมด้วย ผลพวงมาจากการใช้สารเสพติด และทำการรักษาโดยการรับประทานยาจาก รพ.ย่านตาขาวอยู่เป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันผลการใช้สารเสพติด ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น จำนวน 2 ข้อหา คือ ฆ่าบุพการีโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ก่อนนำตัวไปคุมขังและเตรียมนำส่งฟ้องศาลต่อไป.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"