ส.อ.ท. ตั้ง 5 คณะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 จี้องค์การเภสัชเร่งดีลนำเข้าชุดตรวจโควิดราคาต่ำร้อย


เพิ่มเพื่อน    

 

15 ก.ค. 2564 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเกือบวันละ 10,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบวันละ 100 คน สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่ได้ให้การช่วยเหลือทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน แบ่งออกเป็น 5 คณะ ดังนี้ 1.คณะทำงานด้านข้อมูลโควิด มีหน้าที่จัดการให้ความรู้คู่มือการใช้ชุดตรวจโควิด(Rapid Test) , แนวการปฏิบัติตัวในช่วงโควิดและหลังโควิด ผ่านระบบ e-Learning และจัดทำคู่มือการปลูกและแจกเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร โดยมีนายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

 

2.คณะทำงานจัดหาชุด Rapid test และจัดทำห้องความดันลบ มีหน้าที่ดำเนินการจัดหาชุด Rapid test & Product และจัดทำห้องความดันลบ โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท.เป็นประธานคณะทำงานฯ , 3.คณะทำงาน Call Center และประสานงาน ทำหน้าที่ประสานงานรับเรื่องการตรวจโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 โดยมีนายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

 

4.คณะทำงานระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงโควิด ทำหน้าที่ผลักดันต่อกรมควบคุมโรคเพื่อให้ภาคราชการ เอกชน ประชาชนได้ใช้ระบบ Exposure Notification Express (ENX) ในการติดตามและแจ้งเตือนเมื่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยง โดยมีนายสมโภชน์ อาหุนัย รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ และ 5.คณะทำงานรับบริจาคช่วยเหลือ ทำหน้าที่เปิดรับบริจาคหาเงินช่วยเหลือในการดำเนินโครงการจัดทำห้องความดันลบ การจัดซื้อชุด Rapid test และการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยมีนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

 

สำหรับมาตรการเยียวยา ส.อ.ท. ได้ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือภาคธุรกิจและภาคประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผลักดันโครงการ Faster Payment ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะลดระยะเวลาเครดิต เทอม ให้แก่คู่ค้าของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ในระยะเวลา 30 วันต่อไปจนถึงสิ้นปี

 

รวมถึงความร่วมมือกันในการจัดทำสินเชื่อ Supply Chain Factoring เพื่อช่วยเอสเอ็มอี โดยจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียน Made in Thailand แล้ว รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันความเสียหายผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเป็น 50% เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในช่วงนี้ได้มากขึ้น

 

นายสุพันธุ์ กล่าวถึงยอดฉีควัคซีนป้องกันโควิดที่ปัจจุบันยังมีความล่าช้าอยู่ แม้จะมีการเร่งฉีดในพื้นที่ศูนย์ฉีควัคซีนกลางบางซื่อแล้ว แต่สัดส่วนก็ยังน้อย ขณะที่การฉีดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของประกันสังคมก็ยังอยู่ที่ประมาณ 10% เท่านั้นจากยอดทั้งหมดประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตราที่จะต้องฉีดต่อวัน 3-4 แสนโดสตามมาตรการการเปิดประเทศภายใน 120 วันนั้น ยังถือว่าเป็นปัญหาคอขวด ซึ่งตามเป้าหมายในช่วงนี้จำเป็นต้องฉีดวัคซีนได้ประมาณ 50% แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงตามกำหนดจึงต้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหานี้ให้ได้

 

ขณะที่การเร่งเจรจานำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ของส.อ.ท.นั้น คาดว่าภายในอาทิตย์หน้าจะจัดหาได้เบื้องต้น 50,000 ชิ้น โดยมีราคาที่ต่ำกว่า 200 บาทต่อชิ้น ซึ่งตามแผนของรัฐบาลนั้นกำลังจะใช้ Rapid test ในการเข้ามาเป็นทางเลือกการตรวจหาเชื้อโควิดฟรี แต่หากยังล่าช้าประชาชนก็ยังต้องดิ้นรนที่จะไปหาจากที่อื่น ๆ ที่อาจจะเสียเงิน ซึ่งปัจจุบันราคากลางในตลาดที่ซื้อขายตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นไปสูงมากเกินความจริง

 

"จึงอยากทวงถามถึงองค์การเภสัชกรรมว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทั้ง ๆ ที่องค์การเภสัชมีกำลังในการที่จะเจรจานำเข้าและซื้อชุดตรวจโควิด-19 มากกว่าส.อ.ท.ด้วยซ้ำ หากเข้ามาลงมือทำเอง บุกเองเชื่อว่าจะสามารถคุมราคาได้ดีอยู่ในระดับ 100 บาทต่อชิ้นด้วยซ้ำ และก็ขายให้กับประชาชนเหมือนกับการขายยาทั่วไปทั่วที่ตัวเองมีความชำนาญอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องมีการบอกหรือสอนถึงวิธีการใช้อย่างถูกต้องถูกวิธี ผมยังเชื่อว่าอำนาจต่อรองที่ดีที่สุดก็คือองค์การเภสัช และจากปัจจุบันที่เราได้เช็คมาคือในยุโรปขายไม่ถึง 100 บาทต่อชิ้น"นายสุพันธุ์ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"