คืนเก้าอี้แลกหนุน! วัชระซัดเหตุปล่อยผีอบจ.‘สตง.’ยัน‘ชัยมงคล’ผิดอยู่


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กป๊อก" ยันนายกฯ คืนตำแหน่ง 4 นายก อบจ.ไม่มีนัยทางการเมือง แต่ "วัชระ" ไม่เชื่อ ชี้มีข่าวก่อนหน้านี้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกสอบคนใดหนุนพรรคเครือข่าย คสช.จะได้ตำแหน่งคืนหมด ผงะ! สตง.ภาค 6 ยืนยันเห็นสวนทางผู้ว่าฯ ระบุ “ชัยมงคล” มีความผิดอยู่ คนสกลฯ สุดมึน ทำไมรอดมาตรา 44 ได้ทั้งที่คดีพรึ่บ

    กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2561 เรื่องการเปลี่ยนแปลงคำสั่งหัวหน้า คสช. โดยระบุว่า ตามที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2558 เรื่อง การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่อื่น ลงวันที่ 25 มิ.ย.2558 คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 43/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบนั้น
    บัดนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบุคคลที่มีรายชื่อตามบัญชีแนบท้ายดังกล่าว ได้ถูกหน่วยต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยุติเรื่องแล้ว นายกฯ จึงมีคำสั่งให้บุคคลที่มีรายชื่อต่อไปนี้ กลับไปดำรงตำแหน่งหน้าที่เดิม 1.นายสถิรพร นาคสุข นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยโสธร 2.นางมาลัยรัก ทองผา นายก อบจ.มุกดาหาร 3.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ และ 4.นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร
    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ภายหลังกระทรวงมหาดไทยได้ให้ต้นสังกัดตรวจสอบข้อกล่าวหาทั้ง 4 ราย ปรากฏว่าไม่มีความผิด มท.จึงทำเรื่องแจ้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ให้ดำเนินการ จากนั้น ศอตช.ได้รายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งได้มีคำสั่งให้คืนตำแหน่ง 4 นายก อบจ.ดังกล่าว
    ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การคืนตำแหน่งให้ 4 นายก อบจ. ไม่ได้มีนัยทางการเมือง เรื่องนี้สืบเนื่องจากการตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมและส่งผลตรวจสอบมาให้ ศอตช. และ คสช.จึงมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นได้สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมีทั้งผู้ที่ให้ออกและให้พ้นจากหน้าที่ ส่วนใครที่ไม่พ้นจากตำแหน่ง ก็ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่คืน ดูจากข้อเท็จจริงและเนื้อผ้าเป็นหลัก ผิดก็คือผิด โดยมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  เป็นต้นเรื่องในการตรวจสอบ และกระทรวงมหาดไทยมาสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งเราสืบสวนสอบสวนไปตามหน้าที่ 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะคืนตำแหน่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราต้องดูตามข้อเท็จจริงที่สืบสวนสอบสวน จะไปเร่งก็ไม่ได้ และคนที่ออกมาบอกว่าผิดหรือไม่ผิด ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าเขาสงสัยว่ามีความผิด แต่กระทรวงมหาดไทยบอกว่าไม่ผิด ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนก็ต้องรับผิดชอบ
คืนเก้าอี้แลกหนุน
    ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าจะมีคำสั่งแบบนี้ทยอยออกมาเรื่อยๆ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่รอดพ้นจากข้อกล่าวหาทุกท่าน ทั้งนี้ สอดคล้องกับข่าวที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางคนที่เคยพูดกับชาวบ้านไว้ว่า จะให้ คสช.คืนตำแหน่งให้นายก อบจ.บางจังหวัด และมีข่าวอีกว่า ถ้าผู้บริหารท้องถิ่นใดยอมหนุนพรรคในเครือข่ายของ คสช. ก็จะได้ตำแหน่งกลับคืนหมดทุกแห่ง หรือถ้ามีคดีค้างคาใน ป.ป.ช.หรือสำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็จะหลุดหมดทุกคดี จริงหรือไม่ ต้องให้กาลเวลาพิสูจน์ในข้อเท็จจริงกับข่าวที่ได้ยินมา
    นายวัชระกล่าวว่า คำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าต้นสังกัดยุติเรื่องแล้วเหตุใดกรณีนายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี สั่งยุติเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ทำไมไม่คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้นายจเรก่อนเกษียณอายุ หรือกรณีนายกเทศมนตรีอีกหลายแห่งที่ต้นสังกัดสั่งยุติเรื่อง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่คืนตำแหน่งให้ ทำไมไม่ใช้มาตรฐานกฎหมายอันเดียวกัน
    "ที่คืนตำแหน่งให้ ต้องชี้แจงให้ประชาชนเห็นชัดๆ ว่า เพื่อความยุติธรรม หรือเพื่อหาเสียงสนับสนุนการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อในสมัยหน้า อย่าใช้อำนาจเป็นเครื่องมือเพื่อสืบทอดอำนาจโดยปราศจากความยุติธรรม" นายวัชระกล่าว
     นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ. เชียงใหม่ กล่าวว่า ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ที่ให้ความเป็นธรรม และเป็นเรื่องที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา ช่วง 1 ปีเศษที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ไม่ได้ลงพื้นที่มานาน จึงขอลงพื้นที่พบปะประชาชนทุกพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อรับทราบปัญหาและความทุกข์ร้อนประชาชน ก่อนนำมาวิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ตรงความต้องการมากที่สุด 
    เมื่อถามว่า การปลดล็อกคืนตำแหน่งเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ นายบุญเลิศกล่าวว่า การปลดล็อกหรือคืนตำแหน่ง ไม่มีการต่อรองทางการเมืองใดๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ชี้แจงกับคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเท่านั้น
    ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นที่น่าสนใจในกรณีของนายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร โดยนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้มีหนังสือที่ สน.0023.4/1029 ลงวันที่ 8 ธ.ค.2560 เรื่องว่ากล่าวตักเตือน โดยมีเนื้อหาสำคัญระบุว่า จากการพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและระเบียบ คำสั่ง หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง และความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่า นายชัยมงคลปฏิบัติไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2546 มาตรา 35/5 (1) ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 11(11) ข้อ 29 ข้อ 39 และข้อ 64 แต่เป็นความผิดที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ไม่มีเจตนาทุจริต หรือมีพฤติกรรมที่เอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าเสนอราคาหรือเสนองาน หรือออกคำสั่งบังคับแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้กระทำผิดตามกฎหมาย 
สตง.ย้ำมีความผิด
    ดังนั้น พฤติการณ์ของนายชัยมงคล ในฐานะเป็นผู้บริหารระดับสูง และมีอำนาจหน้าที่บริหารราชการ อบจ.สกลนคร ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ และนโยบาย จักต้องถือปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่นั้นโดยเคร่งครัด และเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก จึงว่ากล่าวตักเตือนนายชัยมงคล บริหารราชการส่วนจังหวัดสกลนครให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของทางราชการที่กำหนดโดยเคร่งครัด อย่าให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
    ต่อมาในวันที่ 16 ก.พ.2561 นายเชี่ยวชาญ แพงขวา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 รักษาราชการแทนผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีหนังสือที่ ตผ 0052 อต/0096 เรื่อง ขอให้ทบทวนผลการสอบสวนนายก อบต.สกลนคร ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครในเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่า สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 (จังหวัดอุดรธานี) พิจารณาแล้วไม่เห็นพ้องตามผลการสอบสวนของคณะกรรมการ และขอยืนยันผลการตรวจสอบสืบสวนในกรณีดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมการได้ทำการสอบสวนเฉพาะกรณีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น โดยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร และกรณีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 อยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.จึงเห็นว่าคณะกรรมการสอบสวนไม่ได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามผลการตรวจสอบสืบสวนของสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 (จังหวัดอุดรธานี) ในส่วนที่เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาประกอบการพิจารณาสรุปผลการสอบสวนดังกล่าว
    ในช่วงท้ายของหนังสือดังกล่าวยังย้ำว่า สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 (จังหวัดอุดรธานี) จึงไม่เห็นพ้องตามผลการสอบสวนนายชัยมงคล และขอยืนยันรายงานผลการตรวจสอบสืบสวนกรณีดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 (จังหวัดอุดรธานี) ทราบภายในทุก 90 วัน ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542
    สำหรับรายงานบรรยากาศภายใน อบจ.สกลนครหลังมีข่าวยังเป็นปกติ แต่มีเจ้าหน้าที่บางกลุ่มที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน ในขณะที่บริเวณชั้นสอง ตึก อบจ.สกลนคร ที่เป็นห้องทำงานของนายชัยมงคล ซึ่งปิดมาตั้งแต่มีคำสั่ง คสช.ได้มีคนเข้าทำความสะอาด เพื่อเตรียมห้องไว้นายชัยมงคล ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาปฏิบัติงานเมื่อได
ในขณะที่ในโลกโซเชียลฯ ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกลับเข้ามาตำแหน่งเดิมได้อีก เพราะที่ผ่านนายชัยมงคลมีข้อกล่าวหาในหลายเรื่อง ตั้งแต่การหนีหมายศาลในคดีทำผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องการซื้อรถซ่อมถนนราคา 25 ล้านบาท ที่ตรวจรับไม่ครบ และจอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานกว่า 5 ปี การสร้างท้องฟ้าจำลองมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ที่ไม่มีแบบแปลน โดย สตง.และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์ท้องฟ้าจำลองมีมูลค่าสูงเกินจริง เฉพาะเก้าอี้ตกราคาตัวละ 12.000 บาท นอกจากนั้นยังมีแว่นตาราคาสูงเกินจริง  
“ยังงงๆ หลุดเพราะอะไร อาจเป็นเพราะผลสอบสวนที่ต้นสังกัดลงความเห็นว่าไม่ได้ทำผิด ได้รับคืนความเป็นธรรม” โลกออนไลน์ระบุ
มีรายงานว่า แม้นายชัยมงคลจะรอดคำสั่งตามมาตรา 44 แต่ยังคงมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุด กรณีการหนีหมายศาลอยู่ ซึ่งจะมีการตัดสินในเร็วๆ นี้ด้วย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"