ทะเลแหวกบางสะพาน
ตำบลแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นตัวอย่างการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยในป่าชายเลน เพื่อให้ ‘คน ป่า และทะเล อยู่ร่วมกันได้’ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ ใช้ประเด็นการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเป็นเครื่องมือในการพัฒนา เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินที่มั่นคง
ขณะเดียวกันชุมชนได้ใช้ต้นทุนที่มีอยู่นำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ เช่น การสร้างเครือข่ายประมงพื้นบ้านขึ้นมา เพื่อร่วมกันฟื้นฟู ดูแล อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พัฒนาอาชีพประมงพื้นบ้าน ต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวชุมชน โดยความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายในท้องถิ่นต่างๆ รวมทั้งการบูรณาการแผนงานและงบประมาณเข้าด้วยกัน
‘ทิพย์ รื่นเกษม’ หรือ ‘ผู้ใหญ่สา’
‘ทิพย์ รื่นเกษม’ หรือ ‘ผู้ใหญ่สา’ ประธานบ้านมั่นคงป่าชายเลนและประมงพื้นบ้านตำบลแม่รำพึง เล่าให้ฟังว่า ตำบลแม่รำพึง มี 4 หมู่บ้าน ที่ผ่านมามีปัญหาความไม่มั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัย เพราะเป็นพื้นที่ป่าชายเลนในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชุมชนจึงเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยในที่ดินป่าชายเลนตามโครงการบ้านมั่นคงชนบทของ พอช. จำนวน 247 ครัวเรือน โดย พอช.สนับสนุนงบประมาณการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเรือนที่ทรุดโทรมจำนวน 11.9 ล้านบาทเศษ ดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 ขณะนี้ซ่อมแซมบ้านเรือนที่ปลูกอยู่อาศัยในป่าชายเลน ไปแล้วประมาณ 85 %
หลังจากนั้นชุมชนลงมติร่วมกันสร้างสะพานไม้ไผ่ในป่าชุมชนเชื่อม 2 หมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างยั่งยืน จากหมู่ 8 ไปเชื่อมสะพานหมู่ 5 เป็นสะพานไม้ไผ่ มีความยาวกว่า 500 เมตร ได้รับงบประมาณจาก พอช. โดยชาวชุมชนช่วยกันลงแรง สร้างจากวัสดุธรรมชาติ ไม่มีการตัดไม้ในพื้นที่ป่าชุมชน
สะพานไม้ไผ่ศึกษาธรรมชาติป่าโกงกางและวิถีชีวิตชุมชน
อีกทั้งได้ร่วมกันเพาะพันธุ์และขยายสัตว์น้ำ เช่น จัดทำธนาคารปูม้าเพื่อขยายพันธุ์ สามารถนำแม่พันธุ์ปูมาเพาะพันธุ์ได้ประมาณปีละ 1,500-1,700 ตัว และปล่อยพันธุ์ปูลงสู่ทะเลปีละหลายล้านตัว นอกจากนี้ยังทำ ‘ซั้ง’ ในทะเลเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำให้มีสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับปูได้มากขึ้น จากเดิมวันละ 3-4 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 7-8 กิโลกรัมต่อวัน
ธนาคารปูม้า-สัตว์น้ำ
ผู้ใหญ่สา เล่าให้ฟังต่อไปว่า หลังจากเรื่องที่อยู่อาศัยของชาวตำบลแม่รำพึงได้รับการแก้ไขปัญหาไปแล้ว ตนได้ชวนพี่น้องในชุมชนมาหารือกันถึงแนวทางการพัฒนาชุมชน เพื่อต่อยอดการสร้างรายได้ให้ชุมชน เริ่มจากสิ่งที่พวกเรามีอยู่ เช่น การอนุรักษ์วิถีประมงพื้นบ้าน อาหารทะเลสดปลอดภัย ป่าชายเลน รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่
“ต่อจากนี้ขอให้ทุกคนลืมคำพูดที่ว่า ถ้ามาประจวบคีรีขันธ์ ก็ต้องไปทะเลหัวหิน เพราะเราจะพาไปรู้จักกับการท่องเที่ยวที่ตำบลแม่รำพึง ในเวลา 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นจากการเดิมชมป่าชายเลนบนสะพานไม้ไผ่ยาวกว่า 500 เมตร เรียนรู้วิถีบ้านชาวประมงในป่าชายเลน และสิ่งที่ทุกคนต้องได้ทำ คือการลงตะลุยโคลนปลูกป่าโกงกาง พร้อมกับการหาหอยพู่กันหรือหอยตลับ งานนี้ได้ลงเล่นโคลนกันสนุกแน่นอน” ผู้ใหญ่สาบอกถึงโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชน
ดำน้ำชมประการังน้ำตื้น
หลังจากลุยโคลนเสร็จ ล้างเนื้อล้างตัวเป็นที่เรียบร้อย เราจะพานักท่องเที่ยวไปพายเรือคายักที่ปากคลองออกทะเล ชมธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นนก ปลา ป่าโกงกาง บ้านเรือนความเป็นอยู่ วิถีริมน้ำ และเยี่ยมชมธนาคารปูม้าด้วย รับรองประทับใจแน่นอน
พายเรือคายัคปากคลองชมธรรมชาติ
กิจกรรมต่อมา เราจะพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมความงามของปะการังน้ำตื้น สัตว์ทะเลที่เกาะเบ็ด ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับ ‘อ่าวบ่อทางหลาง’ ทะเลที่น้อยคนจะรู้จัก และที่สำคัญ คือ ทะเลสวย น้ำใสมาก และเงียบสงบ ผู้คนยังไม่พลุกพล่าน
อ่าวบ่อทองหลาง
อ่าวบ่อทองหลาง เป็นอ่าวขนาดเล็ก มีจุดเด่นคือ มีชายหาดโค้งจนเกือบจะเป็นรูปวงกลม สวยงามมาก ชายหาดสีขาวนวล เวลาที่น้ำทะเลลดจะเห็นแนวหาดทรายขึ้นมา เหมาะสำหรับการเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างมาก เพราะระดับน้ำจะตื้น ไม่ลึกจนเกินไป และยังมีเกาะหินอยู่ตรงกลางอ่าว และเนื่องจากที่นี่เป็นอ่าวที่มีหินล้อมรอบ ทำให้คลื่นทะเลเข้ามาไม่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำทะเลได้ปลอดภัยตลอดทั้งวัน
หลังจากเพลิดเพลินที่อ่าวบ่อทองหลาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปชมหรือเล่นน้ำตรงทะเลแหวกได้เลย เพราะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ใครอยากลงไปเดินตรงสันทรายทะเลแหวกแบบใกล้ชิดก็ลงเดินจากตรงนี้ไปได้ แต่ต้องรอเวลาให้น้ำทะเลไหลเข้าหาสันทรายก่อน ถ้าในช่วงนี้ (เดือนกรกฎาคม) จะประมาณ 5 โมงเย็น (ขึ้นอยู่กับฤดู เวลาน้ำขึ้น-ลง) ไฮไลท์อยู่ที่การเดินไปทะเลแหวกที่สวยพอๆ กับทะเลในภาคใต้ รับรองสวยงามได้ภาพประทับใจกลับไปแน่นอน
ชายหาดบ่อทองหลางน้ำใสมรกต
ลุยโคลน เล่นน้ำ ชมความงาม ดื่มด่ำธรรมชาติกันมาทั้งวัน จากนั้นเข้าที่พักแบบโฮมสเตย์ที่อยู่ในป่าโกงกาง หลังเล็ก-ใหญ่ ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้มาเยือน ซึ่งจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนชาวเลยามค่ำคืน เมื่ออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย พร้อมสำหรับมื้อเย็น เป็นอาหารทะเสสดๆ รสชาติติดโปร จากครัวผู้ใหญ่สา ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมของทะเลสดๆ ที่ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านเอามารวมกันขาย แต่ไม่พอขาย หมดเกลี้ยงทุกวัน เพราะคนสั่งเยอะมาก อิ่มหนำสำราญกับอาหารทะเลสดๆ แซ่บๆ แล้ว ก็กลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัย พรุ่งนี้ยังมีต่อ
“เช้าตรู่ ไม่เกินตี5 เราจะพานักท่องเที่ยวออกเรือไปกลางทะเลไปวางอวนกับพี่น้องประมงพื้นบ้าน ออกจากฝั่งไกลมากนัก ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในกิจกรรมนี้ รับรองได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยพบเจอ เข้าฝั่งมาไม่เกิน 8 โมงเช้า กลับเข้าที่พัก อาบน้ำ เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วมากินข้าวเช้าที่ครัวผู้ใหญ่สา มื้อนี้จะเป็นอาหารที่เราไปหามาจากทะเลเมื่อตอนเช้าตรู่ ได้มาเท่าไหร่ทำกินให้หมด แล้วแต่จะรังสรรค์เมนู อร่อยทุกอย่างแน่นอน แค่กินก็คุ้มแล้ว” ผู้ใหญ่สารับประกัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ทะเลใหม่ๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ ไม่ต้องเดินทางลงไปไกลถึงภาคใต้ ใช้เวลาเดินทางสบายๆ จากกรุงเทพฯ เพียง 4-5 ชั่วโมง ขอแนะนำให้มาที่ตำบลแม่รำพึง ด้วยโปรแกรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน หรือหากมีเวลามากกว่านั้น ทางชุมชนยังมีบริการพาไปดำน้ำที่เกาะทะลุ หรือกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม....ติดต่อ ‘ผู้ใหญ่สา’ โทรศัพท์ 097-9539804 รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน…!!
ออกเรือไปกลางทะเลไปวางอวนกับพี่น้องประมงพื้นบ้าน
อาหารทะเลสดๆ 100%
ธิปไตย ฉายบุญครอง
สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)
14/07/64
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |