ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แพลมว่าเขาอาจจะชวน "คิม จองอึน" มาเยือนทำเนียบขาวหากซัมมิตที่สิงคโปร์วันที่ 12 มิถุนายน ประสบความสำเร็จ และสหรัฐกับเกาหลีเหนืออาจสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขั้นปรกติ

โดนัลด์ ทรัมป์ (ซ้าย) และคิม จองอึน / AFP

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน 2561 ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดทำเนียบขาวให้การต้อนรับนายกฯ ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ ที่แคนาดาในวันศุกร์และเสาร์ แล้วหลังจากนั้นทรัมป์จะต้องเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในวันอังคารที่ 12 มิถุนายน

    ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับอาเบะที่ทำเนียบขาว ทรัมป์พยายามกลบความห่วงกังวลเกี่ยวกับการขาดประสบการณ์ทางการทูตและนโยบายต่างประเทศของเขาก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางไปร่วมการเจรจาที่เดิมพันสูงยิ่ง โดยคุยว่า เขาเตรียมตัวมาดีมาก แต่เขาไม่คิดว่าจะต้องตระเตรียมอะไรมาก การเจรจาเป็นเรื่องของทัศนคติ เป็นเรื่องของความเต็มใจที่จะทำให้สิ่งต่างๆ ลุล่วง

    เอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำญี่ปุ่นแวะเยือนสหรัฐเพื่อพบกับทรัมป์ ด้วยความหวังการรับประกันว่าความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นร่วมหัวจมท้ายกับสหรัฐในการรับมือกับเกาหลีเหนือมานานหลายทศวรรษ จะไม่มลายหายไป นับแต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือจะนั่งเจรจากัน รัฐบาลของอาเบะย้ำเตือนสหรัฐหลายครั้งว่าไม่ควรชะล่าใจ หรือใจอ่อนกับประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขาที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง

    ทรัมป์ยืนกรานระหว่างการแถลงข่าวว่า ซัมมิตที่สิงคโปร์จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการเท่านั้น และเขาจะหยิบยกประเด็นเกาหลีเหนือลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นมาพูดคุยกับคิมด้วย คำกล่าวของทรัมป์จึงน่าจะทำให้อาเบะวางใจได้บ้าง แต่ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐที่คาดเดาจิตใจยากรายนี้กลับแสดงให้เห็นว่าเขาเลือกจะเชื่อสัญชาตญาณ มากกว่าดำเนินการทางการทูตตามทฤษฎีและมีความอ่อนไหว กับการจัดการกับช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นั้น

    ผู้นำสหรัฐเปรยถึงเรื่องที่ว่า เขาพร้อมจะพิจารณาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขั้นปรกติกับเกาหลีเหนือ, ทั้งสองฝ่ายอาจลงนามสนธิสัญญาสันติภาพที่จะยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการระหว่างการพบกันที่สิงคโปร์ หรือแม้แต่เขาอาจจะเชิญผู้นำเกาหลีเหนือที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงรายนี้มาเยือนทำเนียบขาว ถ้าหากการประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์สำเร็จด้วยดี

    "บางทีเราจะเริ่มที่ทำเนียบขาว พวกคุณคิดว่ายังไง" ทรัมป์กล่าวเมื่อถูกตั้งคำถามว่าเขาจะเชิญคิมไปเยือนวอชิงตัน หรือจะพาไปยังรีสอร์ตมาร์อะลาโกของเขาที่ฟลอริดา ส่วนประเด็นการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตนั้น ทรัมป์กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เขาหวังว่าจะทำเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้น

ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกฯ อาเบะ เดินออกมาแถลงข่าวที่โรสการ์เดนของทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2561 / AFP

    อาเบะก็กล่าวเช่นกันว่า ตัวเขาก็เต็มใจจะสถาปนาความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ แต่ต้องเป็นภายหลังเกาหลีเหนือยอมทำตามเงื่อนไขสำคัญแล้วเท่านั้น เขาย้ำด้วยว่า ญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายที่ต้องการให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และหากเกาหลีเหนือพร้อมจะก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง อนาคตที่สดใสก็รออยู่ข้างหน้า

    ก่อนหน้าจะออกเดินทางจากโตเกียว อาเบะกล่าวชัดเจนว่า ซัมมิตที่สิงคโปร์จะถือว่าประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อ มีกระบวนการที่เป็นรูปธรรมในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ รวมไปถึงมีคำตอบเกี่ยวกับพลเมืองของญี่ปุ่นที่เกาหลีเหนือลักพาตัวไปในยุคทศวรรษ 1970 และ 1980.