"ชวน" บอกเหนือผู้ใหญ่ยังมีกำนัน ไม่ขอออกความเห็นเรื่องยุบสภา  จุดสำคัญที่สุดที่ในหลวง ร.9 ทรงแนะนำเรื่องการรับผิดชอบให้พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าหน้าที่คืออะไร แล้วทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่ "ไพบูลย์-แรมโบ้" ยันลุงตู่อยู่ต่อ
    เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามกลไกแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่สามารถยุบสภาหรือลาออกได้หรือไม่ ว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ในช่วงเวลาที่มีการงดประชุมนี้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งกระบวนการเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับว่าจะต้องยื่นเข้ามา ซึ่งคณะทำงานในสภาก็ทำงานตามปกติ ยกเว้นไม่มีการประชุมวันพุธและวันพฤหัสบดี ส่วนการประชุมอื่นๆ ยังคงมีอยู่แต่เป็นลักษณะทางซูม
    เมื่อถามว่า หากมีพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้ยุบสภาได้หรือไม่ ประธานสภาฯตอบว่า อย่าไปสมมติเลย ต้องไปถามฝ่ายบริหาร 
    ถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำหรือผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ มองเรื่องนี้อย่างไร นายชวนกล่าวว่า เหนือผู้ใหญ่ยังมีกำนัน อย่าไปให้ความเห็นเลย ขอให้ไปคุยกับฝ่ายบริหารและพรรคการเมืองดีกว่า เพราะว่าทุกพรรคมีผู้นำและผู้บริหารพรรคอยู่ ตนไม่ขอไปพูดอะไรที่เป็นการก้าวก่าย หรือล้ำหน้า แต่ในกระบวนการประชาธิปไตย การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีทุกสมัยประชุมสามัญ ถือเป็นเรื่องปกติ ฝ่ายบริหารมีหน้าที่บริหาร ฝ่ายตรวจสอบก็มีหน้าที่ตรวจสอบ ถือเป็นภารกิจของแต่ละฝ่าย
    ซักว่าในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องประกาศลาออก และยุบสภา จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหรือไม่ ประธานสภาฯ ตอบว่า สมัยแรกที่ตนเป็นนายกฯ ก็มีพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว โดยมีการอภิปรายก่อนลงมติ ซึ่งขณะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลได้ถอนตัวก่อน ทำให้ตนต้องยุบสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของวิถีประชาธิปไตย หมายถึงกระบวนการที่เกิดช่องให้ทำได้ในกรณีนั้น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มองว่าปัญหาเรื่องการบริหารประเทศตอนนี้ควรแก้ไขอย่างไร นายชวนชี้แจงว่า ก็เป็นไปตามเหตุการณ์ และทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในหน้าที่ของตนเอง นี่คือจุดสำคัญที่สุดที่ในหลวง ร.9 ทรงแนะนำเรื่องการรับผิดชอบให้พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าหน้าที่ของท่านคืออะไร แล้วทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต 
    "นี่คือกระบวนการของการแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่ของตนเอง ลำพังคนใดคนหนึ่งหรือคณะใดคณะหนึ่ง ไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ทั้งหมด ทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตนเอง หากไม่ทำหน้าที่แล้วมีแต่เรียกร้องก็จะมีปัญหา มีหน้าที่แต่ไม่ทำ ไปเรียกร้องให้คนอื่นทำ แต่ตัวเองไม่ทำก็มีปัญหาเหมือนกัน"
    ซักว่า ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติของบ้านเมืองตอนนี้ การเปลี่ยนฝ่ายบริหารถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นายชวน ตอบว่า ให้ความเห็นไปแล้วว่าแต่ละฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตนเอง ปัญหาบ้านเมืองเป็นของคู่กันเสมอ ไม่มากก็น้อย อย่าไปแปลกใจ ดังนั้นจะต้องมีรัฐบาล ข้าราชการ ต้องมีแต่ละฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบในภารกิจของแต่ละฝ่าย โครงสร้างบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ จึงต้องตั้งขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาและบริหารบ้านเมือง แต่กลุ่มเดียวทำไม่ได้ จึงต้องมีฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายบริหาร หากพิจารณาอย่าถ่องแท้ก็เห็นว่าแต่ละองค์กรต่างกำหนดหน้าที่ของแต่ละองค์กรเพื่อให้สมประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง แสดงให้เห็นว่าทุกองค์กรมีบทบาทภารกิจของตนเองเพื่อจะได้แก้ปัญหาของตนเองให้สมบูรณ์ขึ้น ดังนั้นความสมดุลของปัญหาที่แต่ละองค์กรต้องปฏิบัติจึงมีส่วนสำคัญมาก
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในคลับเฮาส์กลุ่ม CARE เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยฟันธงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะยุบสภาช่วงปลายปี อย่างช้าไม่เกินเดือน ม.ค.หรือ ก.พ.2565 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่ยุบ และตนเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะไปถึงจุดนั้น การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่การตัดสินใจต้องมีเหตุปัจจัย เช่น พรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้ง แตกแยก ไม่ร่วมรัฐบาลกันแล้วต้องตั้งรัฐบาลใหม่ ถ้ายังตั้งไม่ได้ก็ยุบสภา แต่เวลานี้ยืนยันว่าไม่มีเหตุความขัดแย้งดังกล่าว อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็คงไม่อยากไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรที่จะต้องยุบสภา 
    ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้านายโทนี่จะช่วยประเทศชาติได้ในภาวะนี้ คือหยุดพูดสร้างความสับสนและด้อยค่าคนอื่น หยุดพูดเหน็บแนมคนอื่น หยุดพูดสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยได้แล้ว นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดในยามนี้
        ส่วนที่นายโทนี่บอกว่านักการเมืองทั้งเก่งและไม่เก่งจะแคร์ประชาชน แต่คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชนนั้น ตนเองอยากให้นายโทนี่อย่าเข้าข้างตัวเองมากเกินไป บางทีคนที่อ้างว่ามาจากประชาชน เอาประชาชนมาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทุจริตโกงกินมากมายจนต้องติดคุกติดตะราง หรือหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ อย่างนี้ใช่ไหม หรือออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ตัวเองใช้เสียงข้างมากลากไปจนถูกเรียกเป็นเผด็จการรัฐสภา หรือระบอบทักษิณ การกระทำเช่นนี้ของนักการเมืองใช่ไหม ที่เรียกว่าแคร์ประชาชนหรือเห็นเงาหัวประชาชน 
        “ผมยังยืนยันว่านายกฯ จะต้องทำงานแก้ไขปัญหาจนครบเทอม จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครทั้งนั้น ดังนั้นคงไม่ต้องไปบอก พล.อ.ประวิตรให้ไปบอกนายกฯ ประยุทธ์ให้ลาออก ผมมองว่าหากนายโทนี่อยากกลับประเทศไทย และแน่จริงก็ขอให้กลับมาเลยตอนนี้ กลับมารับโทษที่ตัวเองได้ทำผิดเอาไว้ แค่นี้ก็ได้กลับประเทศไทยแล้วโดยไม่ต้องรอเวลา"
    เขากล่าวว่า ก่อนจะกลับมาประเทศไทย จะต้องถามกลับ 2 ข้อสั้นๆ ว่า 1.ถ้ากลับมาพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายคืนให้ประเทศชาติประชาชนในโครงการที่เกิดการทุจริตในยุครัฐบาลนายทักษิณและยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ 2.พร้อมที่จะกลับเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ถ้านายโทนี่และ น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมรับเงื่อนไขสองข้อนี้ คิดว่าพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่คงไม่ขัดข้อง
    ที่ด้านหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนกลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายเศวต ทินกุล ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรไทยไม่ทน, นายณัทพัช อัคฮาด, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และนายไทกร พลสุวรรณ พร้อมรถกระบะติดลำโพงเครื่องเสียงและพวกจำนวนหนึ่ง เดินทางมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจาก บก.น.2 ร่วม 30 นาย เดินทางมาควบคุมความสงบเรียบร้อย โดยตั้งแผงเหล็กปิดกั้นทางเข้า-ออกพรรคที่ติดถนนเศรษฐศิริ และอนุญาตให้ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมอ่านแถลงการณ์บนถนนด้านหน้าพรรคเท่านั้น
    มีการอ่านแถลงการณ์ว่า ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้แก้ไขความผิดพลาดและเรียกศรัทธาจากประชาชนคืนมา โดยการถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วม รัฐบาลฆาตกร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที อันเป็นความต้องการสูงสุดของประชาชนทั้งประเทศ จะเป็นการช่วยชีวิตประชาชนได้อีกจำนวนมาก จากรัฐบาลฆาตกร หากพรรคประชาธิปัตย์เห็นแก่ชีวิตของประชาชน ต้องถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลฆาตกรโดยเร็วที่สุด
    จากนั้นตัวแทนอาชีวะไทยไม่ทนได้นำแมลงสาบหลายสิบตัวออกจากถุงพลาสติก และกล่าวว่า “ถึงนายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคที่เปลี่ยนนำพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมเป็นพรรครัฐบาล ผิดคำพูดที่ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาเสียงเลือกตั้งว่า ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ มาวันนี้ ชาวบ้านเรียกพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคแมลงสาบ ตนขอให้ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ นำพาพรรคออกจากพรรคร่วมรัฐบาลฆาตกร วันนี้จึงมาจัดการแมลงสาบ อย่าให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปื้อนมลทินว่าเป็นพรรคฆาตกร ฆ่าประชาชนเลย”  พร้อมทั้งเอาแมลงสาบเทใส่ในถังขยะและบนถนน ก่อนใช้ยาสเปรย์ฉีด และเท้าเหยียบแมลงสาบที่อยู่บนถนนหน้าพรรค.