เปิดผลวิจัยวิ่งสมาธิ สร้างพลังสุขภาพดี


เพิ่มเพื่อน    

    ด้วยกระแสการวิ่งที่เติบโตขึ้นทุกวัน ซึ่งไม่เพียแต่ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว ผลพลอยได้ที่สำคัญคือยังฝึกสติสมาธิและจิตใจของตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น จนสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ พิชิตเป้าหมายให้บรรลุผลสำเร็จ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของบุคคลนั้นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งหากใครยังลังเล หรือไม่เชื่อ...ก็ขอให้ออกไปวิ่งสักครั้งก็จะเข้าใจ      


    เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานเดิน-วิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ถือศีลห้า ลด ละอบายมุข ปี 2561 ครั้งที่ 17 ชวนคนไทยทั่วประเทศและชาวพุทธทั่วโลก ฝึกฝนร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง แสดงพลังความดี เนื่องในวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 โดยมี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยนายประสาร จิโรจน์วีรภัทร ประธานสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทยเข้าร่วม โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมส่วนกลางกว่า 4,000 คน และมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 50,000 คน จาก 70 สนามทั่วประเทศ และสำคัญคือ ในปีนี้มีการจัดกิจกรรมเดินวิ่งวันวิสาขบูชาในต่างประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส มีการจัดงานวิ่งวิสาขะ พุทธบูชา ด้วย

(ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม)


    ศ.นพ.อุดมศิลป์กล่าวว่า โครงการนี้ส่งเสริมให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพด้วยการเดิน-วิ่ง และรณรงค์ให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น โดยการเชื่อมโยงการมีกิจกรรมทางกายเข้ากับการปฏิบัติบูชาทางศาสนา หรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีสติ คือ การรู้สึกตัวตลอดเวลา เพราะเราสามารถกำหนดสติได้ทุกอิริยาบถ โดยใช้หลักการเดียวกับการเดินจงกรม ทั้งขณะนั่ง นอน หรือวิ่งก็เช่นกัน เมื่อเท้าก้าวลงพื้น ให้มีการกำหนดลมหายใจไปบริเวณดังกล่าว ไม่ต่างกับการนั่งสมาธิ นักวิ่งจะได้เรียนรู้ที่จะผสานกายกับจิตเป็นหนึ่งเดียวกันผ่านการวิ่ง ตลอดจนการเคลื่อนไหวร่างกาย ในขณะที่จิตนิ่งสงบ มีการควบคุมการหายใจเข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอไปพร้อมกับการเดินหรือวิ่ง โดยไม่วอกแวก หรือสนใจกับสิ่งเร้ารอบข้าง เมื่อวิ่งเหนื่อยหรือหิวน้ำก็พิจารณาให้รู้ว่าเหนื่อย หิวเป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จึงนับเป็นการฝึกฝนร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญยังช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนลด ละ เลิกอบายมุข มาร่วมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง และการตั้งใจทำความดีในฐานะที่เป็นชาวพุทธเนื่องในวันวิสาขบูชาอีกด้วย


    นายประสารกล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่วันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกเวียนมาบรรจบอีกครั้ง โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 29 พ.ค. สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย และภาคีเครือข่ายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จึงร่วมกันจัดงานเดิน-วิ่ง สมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ถือศีลห้า ลด ละอบายมุข ครั้งที่ 17 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพกายและจิตที่ดี ผ่านการมีกิจกรรมทางกายด้วยการเดินวิ่ง โดยนำหลักการเรื่องการเจริญสติมาประยุกต์ใช้กับการวิ่งและการดำเนินชีวิต รวมถึงเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติบูชา ทำความดีในวันวิสาขบูชาและในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ในวันที่ 28 พ.ค. มีการจัดค่ายเจริญสติเตรียมความพร้อมก่อนวิ่ง โดยมีกิจกรรม ได้แก่ เสวนาเรื่องการวิ่งสมาธิ การเจริญสติกับการวิ่ง รวมถึงฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับการวิ่งสมาธิให้กับนักวิ่งที่เข้าร่วมทุกคนได้รับชม และสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนได้ตรียมความพร้อมสำหรับการวิ่ง โดยปีที่ผ่านมามีประชาชนให้ความสนใจกิจกรรมนี้จำนวนมาก มีนักวิ่งจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 50,000 คน จาก 70 สนามทั่วประเทศ และที่สำคัญในปีนี้มีการจัดกิจกรรมเดินวิ่งวันวิสาขบูชาในต่างประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส มีการจัดงานวิ่งวิสาขะ พุทธบูชา เช่นกัน จึงหวังไว้ว่าในปีต่อๆ ไปจะมีการขยายงานวิ่งนี้ให้แพร่หลายในต่างแดนมากขึ้น


    ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า การเดินวิ่งเป็นวิธีการสร้างเสริมสุขภาพที่ครบทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย จิต ปัญญา และสังคม เพราะการวิ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงไปพร้อมๆ กับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของคนรักสุขภาพซึ่งเป็นที่ทราบกันดี แท้จริงแล้วการวิ่งยังส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิต เพราะทำให้จิตใจแจ่มใสซึ่งมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ที่เป็นพื้นฐานของสติปัญญา ดังนั้น หากเราใช้โอกาสในช่วงเวลาของการเดิน-วิ่งด้วยการเจริญสติภาวนา ยิ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อสุขภาพองค์รวมได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
    ทั้งนี้ การศึกษาของมหาวิทยาลัยเจมส์ คุก แห่งนอร์ทควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย พบว่า ทั้งการปฏิบัติสมาธิและการวิ่งต่างส่งผลต่อฮอร์โมนที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ในเชิงบวก นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการฝึกสมาธินั้นส่งผลดีต่อร่างกายของนักวิ่ง โดยในการศึกษาของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอูลเลวัล ประเทศนอร์เวย์ ระบุว่า การฝึกการผ่อนคลายด้วยการปฏิบัติสมาธิส่งผลต่อระดับกรดแล็กติกในร่างกาย โดยนักวิ่งที่มีการฝึกปฏิบัติสมาธิเป็นเวลา 6 เดือน มีระดับกรดแล็กติกในเลือดน้อยกว่านักวิ่งที่ไม่ได้ฝึกอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการวิ่งและการปฏิบัติสมาธิจะเป็นกิจกรรมที่มีรูปแบบแตกต่างกัน แต่แท้จริงแล้วมิได้ขัดแย้งกัน ในปัจจุบันจึงมีความพยายามเชื่อมโยงการวิ่งและการปฏิบัติสมาธิเข้าด้วยกันให้มากขึ้น บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าร่างกายและจิตใจต่างส่งผลซึ่งกันและกัน การฝึกฝนร่างกายอย่างเหมาะสมจึงเป็นการฝึกฝนจิตใจด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน การฝึกฝนจิตใจอย่างต่อเนื่องก็ส่งผลต่อความสมบูรณ์และการใช้ศักยภาพของร่างกายอย่างเต็มที่ 
    สำหรับงานวิ่งดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ระยะทาง คือ 5 และ 10 กม. (ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีเหรียญรางวัล ผู้เข้าเส้นชัยจะได้รับกระเป๋าเป็นที่ระลึก) มีเส้นทางวิ่งใน 3 สวนสาธารณะ ได้แก่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนจตุจักร
    ด้านนายบุญเศ งามมงคล พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง อายุ 49 ปี ที่มาพร้อมลูกชายวัย 9 ปี กล่าวว่า การออกวิ่งอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เราชนะใจตัวเองได้ ซึ่งหากเราทำได้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะชนะอุปสรรคอื่นๆ ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ส่วนตัวที่วิ่งเพราะเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ทำได้คนเดียว โดยไม่ต้องรอผู้ใดอย่างกีฬาที่เล่นเป็นทีม ซึ่งต้องรอคนมาครบถึงจะเล่นได้ ซึ่งอาจทำให้เราพลาดโอกาสออกกำลังกายไป เพราะแต่ละคนก็มีครอบครัว ภารกิจที่ลัดตัว รวมทั้งข้ออ้างต่างๆ นานามากมาย 
    ดังนั้นการวิ่งจึงถือเป็นทางออก และยังเชื่อว่าเป็นการกีฬาที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีที่สุด เพราะเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาเห็นหลายคนเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองด้วยการวิ่ง โดยเฉพาะบุคคลตามสื่อโซเชียลมีเดีย ที่เปลี่ยนแปลงจากคนอ้วนมาก กลายเป็นคนหุ่นดี หน้าตาสวยหล่อ ที่สำคัญทำให้โรคภัยเรื้อรัง อาทิ ความดันโลหิตสูง โรคหืดหอบ ที่เป็นอยู่หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ ถือเป็นแรงบันดาลใจอย่างดีให้ตัวเองปฏิบัติตาม เพราะอยากมีชีวิตที่ยืนยาวอยู่กับครอบครัว และชื่นชมความสำเร็จของลูกเมื่อเติบโตขึ้นไปอีกนานๆ 
    “ที่พาลูกมาวิ่ง เพราะต้องการปลูกฝังให้ซึมซับบรรยากาศของการเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก เพราะจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ทุกมิติทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งยังเป็นการเปิดมุมมองให้เห็นโลกกว้าง ใช้ชีวิตในสังคมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ และมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ สร้างประโยชน์ให้ครอบครัว ชุมชน และส่วนรวมได้” พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งกล่าว
    เห็นประโยชน์ของการวิ่งกันแล้ว อย่ารอช้า ออกก้าวเท้าไปพร้อมกัน... ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก "วิ่งสมาธิ Running: Living in the Moment" www.facebook.com/runninginthemoment.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"