14 ก.ค.2564 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สิ่งที่เข้าใจ และ ไม่เข้าใจ” มีเนื้อหาว่า

1.เรื่องคุณภาพของวัคซีน ชนิดไหนดี,ชนิดไหนดีกว่า,ชนิดไหนดีที่สุด เริ่มแรกของการระบาดไม่มีใครรู้หรอก เพราะเป็นวัคซีนฉุกเฉิน อันนี้ "เข้าใจได้" อย่าไปต่อว่ารัฐบาลกันในประเด็นนี้เลย แม้ซิโนแวคจะมีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพ แต่ประเทศจีนซึ่งก็ฉีดยี่ห้อนี้ ตอนนี้ก็มีการติดเชื้อเพียงหลัก 10 เท่านั้นเอง ถ้าไม่มีคุณภาพ น่าจะระระบาดเป็นหลักหมื่น หลักแสน ต่อวันจากจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ตอนระบาดใหม่ๆ ก็มีไวรัสชนิดเดียว ที่เรียกว่า "อู่ฮั่น" จีนก็ใช้ซิโนแวคนี่แหละป้องกัน และก็ใช้ได้ผลการที่ไทยสั่งซิโนแวคมาใช้ในตอนแรก ก็"เข้าใจได้" 

2.เรื่องการบริหารสถานการณ์ไม่ให้เชื้อระบาดอย่างรุนแรง ตามหลักระบาดวิทยา นี่สิมีปัญหา ความจริงน่าจะทำได้ดีกว่านี้ อันนี้ "ไม่เข้าใจ" ลองดู 10 จังหวัด ที่ล็อกดาวน์นะครับ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กค.2564 เวลา 23.35 น.) 10 จังหวัดที่ล็อกดาวน์ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน ตั้งแต่ 7.7%-60.8%  ในขณะที่ 4 จว. คือ นราธิวาส 10.7%,ปัตตานี 7.7%,ยะลา 10.10%,สงขลา 10.91% น้อยกว่า "บุรีรัมย์" ที่ไม่ระบาดรุนแรง บุรีรัมย์ฉีดไปแล้วถึง 14.22% ในขณะที่เชียงใหม่เมืองท่องเที่ยว ฉีดไปเพียง 12.22 % เป็นต้น อันนี้ เป็นเรื่องที่ผม"ไม่เข้าใจ" จึงขอให้ "หมอ" ที่นั่งอยู่ใน ศบค.ใช้จริยธรรมในฐานะผู้ใช้วิชาชีพตอบ หาก "หมอ" ทำตัวอยู่ใต้นักการเมืองโดยไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณ ก็ไม่ต้องตอบ เพราะท่านสูญเสียความเป็น "หมอ" ไปแล้ว เมื่อเราละเลยหลัก "ระบาดวิทยา" ประเ ทศก็เผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้แหละ

ผมเป็นนักกฎหมายที่ค่อนข้างละเอียดในเรื่องนี้ ตอนเป็นนักการเมืองผมก็พูดเรื่องความเป็นธรรม และ ความเท่าเทียมในสภามากที่สุดคนหนึ่ง ตอนนี้มาเป็นประชาชน เมื่อเห็นว่า ส.ส.เขาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ผมก็ถามในฐานะประชาชนก็แล้วกัน

เรื่องอื่น ไม่เข้าใจก็ยังมีอีกเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน  ก็เพียงไม่เข้าใจอยู่ในใจ