ภูมิใจไทยยันร่วมรัฐบาลต่อ ไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวล้มรัฐบาลตามความสะใจของบางคน ชี้ถ้าซ้ำเติมสถานการณ์เลือกตั้งคราวหน้าประชาชนจะไม่ให้กลับมาอีก ขณะที่ ปชป.ไม่กังวลศึกซักฟอก ยึดหลักซื่อสัตย์ สุจริต ไทยไม่ทนยื่น 6 เสนอให้รัฐบาลทำ
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข้อเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งสำคัญคือการทำงาน โดยในพรรคได้กำชับ ส.ส.ให้ลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้าน สิ่งไหนที่ไปซ้ำเติมสถานการณ์ก็ต้องหยุด และต้องตระหนักว่านายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขปัญหาอยู่
วันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีปัญหาต้องแก้ไข หากพรรคถอนตัวก็เท่ากับว่ามีปัญหาหรือตัดช่องน้อยแต่พอตัว และเชื่อว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้าประชาชนคงไม่ให้โอกาสกลับมาอีก และตนคิดว่านายกรัฐมนตรีก็คงคิดเช่นกัน แม้อึดอัดใจคิดจะตัดสินใจหลายอย่างก็ตาม
“การเรียกร้องให้ถอนตัว เป็นความสะใจของหลายคนที่ถามว่าทำไมไม่ลาออก แต่วันนี้เกิดปัญหา พวกเราเข้ามาแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดปัญหาแล้วจะให้พวกผมลาออกเพื่อให้รัฐบาลล้ม แล้วถามว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการรณรงค์หาเสียงออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตอนนี้เป็นไปได้ยาก และเป็นการซ้ำเติมปัญหา ดังนั้นหลังสถานการณ์โควิดค่อยมาประเมินกันใหม่ และพวกผมก็จะประเมินตนเอง” นายณัฏฐ์ชนนกล่าว
สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองและภาคประชาชนล่ารายชื่อฟ้องนายกรัฐมนตรีบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ผิดพลาด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น นายณัฏฐ์ชนนกล่าวว่าเป็นประเด็นทางการเมืองที่จะลงสนามเลือกตั้ง ที่ต้องเปิดประเด็นสิ่งที่เห็นต่าง ก็ต้องไปว่ากันตามช่องทางกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญไม่อยากให้นักการเมืองไปซ้ำเติมสถานการณ์ วันนี้ทุกคนสับสนหมด ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหา เรื่องวัคซีน กระบวนการโรงพยาบาลสนามที่ไม่มีความชัดเจน ดังนั้นเราต้องตั้งสติดีๆ และแก้ไขปัญหาไปทีละอย่าง
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าหลักการในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญในการตรวจสอบรัฐบาล เป็นหน้าที่ที่สำคัญของฝ่ายค้านตามระบบประชาธิปไตย เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมชี้แจง รัฐมนตรีคนใดที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีหน้าที่ต้องชี้แจง ส่วนรัฐมนตรีของพรรค ไม่มีความกังวล เพราะยึดหลักซื่อสัตย์ สุจริต ในการทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
“ยิ่งสถานการณ์ขณะนี้ ต้องทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ให้สุดความสามารถ มุ่งประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางจะมีรัฐมนตรีคนใดบ้าง และยื่นช่วงเวลาใด ก็เป็นดุลพินิจของฝ่ายค้าน ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้” นายราเมศกล่าว
ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกันนี้ กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายไทกร พลสุวรรณ และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาโควิด-19 และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยใช้สแตนดี้รูปพล.อ.ประยุทธ์แทนตัวจริง เพื่อสะท้อนว่าที่ผ่านมามีการยื่นข้อเรียกร้องไปหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข เหมือนการยื่นให้หุ่น โดยระหว่างอ่านแถลงการณ์ นายยศวริศยังใช้กระดาษที่พับเป็นพัดตีไปที่ศีรษะของสแตนดี้ พล.อ.ประยุทธ์หลายครั้ง เพื่อเป็นการย้ำให้เข้าใจถึงข้อเรียกร้องและความเดือดร้อนของประชาชน
ด้านนายไทกร ได้อ่านแถลงการณ์คณะไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย โดยเรียกร้องให้รัฐบาล ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน 6 ข้อ คือ
1.ออกมาตรการทางกฎหมายใช้พักชำระหนี้ ทั้งนี้ ควรพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น หรือจนกว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
2.งดเก็บค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน ค่าน้ำ ค่าไฟ สำหรับบ้านเรือนราษฎรอยู่อาศัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
3.พักการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ต่างๆ ชั่วคราว ช่วยเหลือประชาชนในการเจรจา ไกล่เกลี่ยหนี้สิน โดยให้ศาลพักการพิจารณาออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย
4.จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ยุติการเยียวยาแบบชิงโชค
5.เปิดเสรีการนำเข้าวัคซีน และอุปกรณ์ในการตรวจโควิดเบื้องต้น หยุดผูกขาดวัคซีนเพียงบางยี่ห้อ นำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพได้รับการยอมรับมาฉีดให้ประชาชน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว
6.ออกมาตรการงดภาษีนำเข้า วัคซีนและชุดตรวจโควิดเบื้องต้น
ทั้งนี้ กลุ่มไทยไม่ทนยืนยันว่ายังเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อ โดยในวันที่ 14 ก.ค. จะไปปราศรัยเชิงสัญลักษณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้เลิกสนับสนุนรัฐบาล, วันที่ 15 กรกฎาคมไปปราศรัยที่พรรคชาติไทยพัฒนา, วันที่ 16 กรกฎาคม ไปร่วมทำกิจกรรมที่กระทรวงสาธารณสุข ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและกลุ่มราษฎรในวันที่ 18 กรกฎาคมนั้น อยู่ระหว่างหารือกันว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่
ส่วนนายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย อ่านแถลงการณ์ "การใช้อำนาจฉ้อฉลของรัฐ"
โดยนายนิติธรได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยอ่านแถลงการณ์ว่า เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มิได้เป็นผู้ติดเชื้อ มิได้เป็นผู้รอติดเชื้อ มิได้เป็นผู้รอการตรวจเชื้อ หรือเป็นญาติของบุคคลเหล่านั้นเท่านั้น แต่เป็นผู้รอโอกาสที่จะได้ฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพ ได้รับการรักษาเอาใจใส่อย่างจริงจังจากรัฐ และสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ประชาชนทุกคนยังคงเป็นมนุษย์อีกด้วย ขณะนี้ประชาชนอยู่ในภาวะอดกลั้นอย่างสุดขีด ต่อสิ่งที่รัฐกระทำต่อประชาชนอย่างเหลืออดเหลือทน อันใกล้จะถึงจุดที่จะเกินทน ต่อสถานการณ์ที่ประชาชนมิได้ก่อขึ้นแล้ว
"การแก้ปัญหาประเทศชาติให้ยั่งยืน ต้องฟื้นฟูจริยธรรมเป็นสำคัญ ทั้งประชาชนจะดำรงอยู่ได้ด้วยสิทธิเสรีภาพ และการทำหน้าที่เพื่อการสร้างชาติให้มั่นคง มีความเสมอภาค ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหลักสากล หากแม้สิทธิเสรีภาพต้องสูญหายไปเพียงชั่ววินาทีเดียว ด้วยความเชื่อในลัทธิอำนาจของผู้มีอำนาจ คำว่าการปกครองรูปแบบประชาธิปไตย ย่อมยากเสมอทุกครั้งที่จะทำให้เข้มแข็งยั่งยืน ประชาชนคนไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการนี้จะได้รับการทบทวน และเชื่อมั่นว่ามาตรการต่อไปต้องดีกว่านี้ อย่างน้อยก็สร้างแรงบันดาลใจที่จัดหาได้ง่ายกว่าวัคซีน และหวังว่าคงไม่มีใครในรัฐบาลคิดทุจริตฉ้อฉล จนกระทั่งต้องโกงแรงบันดาลใจ" นายนิติธรกล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยผ่านระบบซูมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ยื่นมีการญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 และเพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด จึงขอให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคทุกคนเปิดรับข้อมูล ความผิดพลาด ความล้มเหลว และการทุจริตของรัฐบาล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |