13 ก.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.30  น. ที่หอพักบริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์ฝึกทักษะทางคลินิกชั้นสูง รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ได้ทำการส่งตัวผู้ป่วยเด็กและคุณครู จากคลัสเตอร์ฟันน้ำนม  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ที่หายเป็นปกติ และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่ง รพ.ศรีนครินทร์ มข.ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศไปส่งถึงที่บ้าน ที่ อ.สีชมพู โดยที่เด็กๆต่างดีใจที่ได้กลับไปพบกับพ่อ-แม่ และยังคงได้ของเล่นชิ้นใหม่ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ที่ผู้มีจิตศรัทธา นำมามอบให้กับเด็กๆ รวมไปถึงขนมนานาชนิดที่ถูกนำมาส่งมอบตลอดทั้งช่วงของการเข้ารับการรักษา ท่ามกลางความดีใจของเด็กๆที่จะได้กลับบ้าน พร้อมทั้งโบกโบกไม้โบกมือกับทีมแพทย์ และพยาบาล รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องอยู่ร่วมกันนานกว่า 14 วัน 

รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า  คลัสเตอร์ฟันน้ำนมกลุ่มนี้เดินทางเข้ามารับการรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์  เมื่อวันที่ 1  กค. และวันนี้ครบ 14 วันตามกำหนดการรักษาและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งหมดมีอาการปกติ สามารถกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนได้ แต่ถึงอย่างไรต้องกำชับให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขคือสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือและงดรับประทานอาหารร่วมกัน ขณะที่คุณครู อีก 2 ราย  มีอาการปอดติดเชื้อแต่ไม่รุนแรง ซึ่งแพทย์ได้ให้ยารักษาตามอาการต่อไป  

ขณะที่ นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนก่น กล่าว่า ขณะนี้ รพ.ศรีนครินทร์ มข.และ รพ.ขอนแก่น ได้ส่งผู้ป่วยคลัสเตอร์ฟันน้ำนมกลับบ้านสู่อ้อมกอดของครอบครัวแล้ว หลังจากถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาทั้งหมด 42 ราย แยกเป็นคุณครู 8 คนและเด็กๆ 34 คน ซึ่งทุกคนครบกำหนดการรักษา 14 วัน ซึ่งเดิมเราวางแผนไว้คือรักษาที่ รพ. 10 วัน และ รักษาตัวต่อที่ รพ.ใกล้บ้าน 4 วัน แต่ทีมแพทย์ที่ดูแลรักษาได้ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุกวัน และให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการ แต่ในที่สุดวันนี้เด็กๆอาการหายขาดจากโรคและถูกส่งกลับบ้านแล้ว แต่ยังคงมีคุณครูอีก 2 ราย ที่ต้องทานยาต่อเนื่องอีก 2 วัน ซึ่งคาดว่าอาการจะดีขึ้นในเร็วๆนี้ และทั้งหมดแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 

อย่างไรก็ตามจากการเกิดคลัสเตอร์ฟันน้ำนมในพื้นที่ อ.สีชมพู คณะทำงานได้ทำการตรวจคัดกรองทั้งสิ้นรวมกว่า 800 ราย จนทำให้พบผู้ป่วยโควิด ทั้งสิ้น 120 ราย และได้กำหนดให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง อีกทั้งยังคงมีการจัดสรรวัคซีนให้กับ อ.ภูเวียงและ อ.สีชมพู ซึ่งเชื่อมโยงคลัสเตอร์กันอำเภอละ 2,000 โดส สำหรับการฉีดให้กับพื้นที่ที่มีการระบาด โดยใช้ รพ.สต.เป็นจุดฉีดวัคซีนโดยที่ไม่ขนคนออกมาข้างนอก ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ รพ.สต.ที่จะสามารถรองรับการให้บริการการฉีดวัคซีน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากวัคซีนได้รับการจัดสรรมาเป็นจำนวนมาก การกำหนดจุด รพ.สต.เป็นจุดฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที