คุมเข้มจุดตรวจ-สั่งปราบข่าวปลอม


เพิ่มเพื่อน    

ศปม.ลงพื้นที่จุดตรวจเคอร์ฟิววันแรก พบหลายจุดยังมีผู้ฝ่าฝืน "ตร." ปูพรมตั้งด่าน 10 จังหวัดทั่วประเทศ 147 จุด เน้นประชาสัมพันธ์ ปชช.ก่อนบังคับใช้ กม.จริงจัง "บิ๊กปั๊ด" สั่งปราบข่าวปลอมสร้างความตระหนกช่วงโควิด "วิษณุ" แจงโพสต์ความจริงไม่ผิดข้อกำหนดฉบับ 27 ปัดจำกัดเสรีภาพนำเสนอข้อมูล
    ตั้งแต่ช่วงคืนวันอาทิตย์ต่อเนื่องเช้าวันที่ 12 ก.ค.  พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) มอบหมายให้ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ในฐานะเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (เสธ.ศปม.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจจุดสกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานและจุดตรวจป้องกันอาชญากรรมหลายพื้นที่
    โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ซึ่งได้จัดกำลังจากศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย (ศตก.)  จำนวน 8 นาย ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจตลิ่งชัน จำนวน 8 นาย แบ่งการปฏิบัติเป็น 2  ผลัด ผลัดละ 4 นาย รับผิดชอบในพื้นที่กรุงธนเหนือ เขตตลิ่งชัน
    ต่อมา พล.อ.สุพจน์เดินทางต่อไปยังจุดตรวจป้องกันอาชญากรรมในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ บริเวณแยกเคหะร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า ซึ่งรับผิดชอบโดยสถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า รับผิดชอบในพื้นที่เขตลาดกระบัง  ได้แก่ แขวงคลองสามประเวศ และแขวงคลองสองต้นนุ่น  รวมทั้งพื้นที่เขตมีนบุรี ได้แก่ แขวงแสนแสบ ทั้งนี้ยังได้ปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จำนวน 3 นาย
    เวลา 01.00 น. เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจป้องกันอาชญากรรมในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ จุดตรวจใต้ด่วนลาดพร้าว ซึ่งรับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพบก  (ศปม.ทบ.) โดยกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ซึ่งจัดกำลังพล จำนวน 2 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจโชคชัย จำนวน 8 นาย 
    พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงได้รับข้อมูลเบาะแสอันเป็นประโยชน์จากประชาชนจนนำไปสู่การจับกุมได้หลายครั้ง ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นผู้ทำการละเมิดกฎหมายสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1111 ทำเนียบรัฐบาล หรือหมายเลข 191, 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสายด่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง  หมายเลข 1138 กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ตลอด 24  ชั่วโมง 
    ส่วน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ภาพรวมผลการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 10 จังหวัด มี 1.กทม. ตั้งจุดตรวจจำนวน  88 จุด 2.สมุทรปราการ ตั้งจุดตรวจจำนวน 4 จุด 3.นนทบุรี ตั้งจุดตรวจจำนวน 2 จุด 4.ปทุมธานี ตั้งจุดตรวจจำนวน 4 จุด 5.นครปฐม ตั้งจุดตรวจจำนวน 5 จุด 6.สมุทรสาคร ตั้งจุดตรวจจำนวน 5 จุด 7.สงขลา ตั้งจุดตรวจจำนวน 9 จุด 8.ยะลา ตั้งจุดตรวจจำนวน 12 จุด 9.ปัตตานี  ตั้งจุดตรวจจำนวน 11 จุด และ 10.นราธิวาส ตั้งจุดตรวจจำนวน 7 จุด รวมตั้งจุดตรวจจำนวน 147 จุด
    "ในเบื้องต้นผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำให้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ให้ได้รับทราบถึงข้อหาและโทษที่จะได้รับหากมีการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว" โฆษก ตร.กล่าว
    ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงการแชร์ข่าวปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา  ได้รับข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลฯ  และเบาะแสจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการให้พิสูจน์ทราบ จนพบผู้ที่เกี่ยวข้องกับสร้างข่าวปลอมและอยู่ในข่ายที่ต้องดำเนินคดีกว่า 50 คดี ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวนกว่า 30 คดี รวมถึงเรื่องการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนและกระบวนการทางสาธารณสุข ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และจะมีการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดในกรณีอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อนำมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดต่อไป
    "การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าให้หยุดการกระทำของท่านเสีย" รองโฆษก ตร.กล่าว 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้อกำหนดฉบับที่ 27 ระบุการเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือมีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ  ถ้าเป็นกรณีที่นำเสนอข้อเท็จจริงแต่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวจะถือว่ามีความผิดหรือไม่ว่า ถ้าเสนอข่าวข้อเท็จจริงไม่ถือว่ามีความผิด 
    เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการกำหนดเช่นนี้เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ข้อความดังกล่าวลอกมาจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพก็ขัดรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ตอนออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ส่วนกรณีข้อกำหนดดังกล่าวจะใช้เป็นเวลา 14 วัน เว้นแต่จะประเมินสถานการณ์ความเหมาะสมต่อไปนั้น ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องเขาประเมินอยู่ทุกวัน โดยดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต จำนวนการฉีดวัคซีนว่ามีมากน้อยอย่างไร
    ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในประกาศสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการปฏิบัติงานภายในที่พัก และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 4 ตอนหนึ่งระบุว่า ขอให้บุคลากรสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานภายในที่พัก (เวิร์กฟรอมโฮม) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 99 ยกเว้นงานบริการประชาชนให้ปฏิบัติงานที่สำนักงานเท่าที่จำเป็น ตั้งแต่วันที่ 12-31 ก.ค.64
    จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในวันแรกของมาตรการเคอร์ฟิว 14 วัน ซึ่ง จ.สงขลาเป็นหนึ่งใน 10  จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม โดยยอดผู้ป่วยยังพุ่งไม่หยุด ซึ่งยอดสะสมตั้งแต่เดือนเมษายนอยู่ที่ 7,870 ราย คนเสียชีวิต 32 คน เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายตำรวจทหารและฝ่ายปกครองเริ่มตั้งด่านตรวจเพื่อควบคุมการเดินทางออกนอกจังหวัดอย่างเข้มงวด โดยมีการตั้งด่านตรวจหลักจำนวน 9 จุดในเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดทั้งรอยต่อ จ.พัทลุง จ.นครศรีธรรมราช และ  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจุดตรวจในแต่ละอำเภอทั้ง 16 อำเภอ โดยผู้ที่จะเดินทางออกจาก จ.สงขลาต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น รวมหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน 
    ส่วนบรรยากาศที่ สภ.หาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชนมายื่นเรื่องขออนุญาตเดินทางออกนอกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางไปทำธุระ ทำธุรกิจส่วนตัว และเดินทางกลับบ้านในช่วงเคอร์ฟิว แต่ผู้ที่จะมาขออนุญาตเดินทางจะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"