11 ก.ค.64-นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า หลังจากที่มีเปิดภาคเรียนการศึกษา 1/2564 ได้ระยะเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว กสศ.และหน่วยงานต้นสังกัด ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ได้ร่วมกันเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนนักเรียนรายบุคคลระหว่างปีการศึกษา 2/2563 และ 1/2564 เพื่อติดตามเฝ้าระวังปัญหานักเรียนยากจนพิเศษหรือนักเรียนทุนเสมอภาคที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา หลังคณะกรรมการบริหาร กสศ. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาคเพิ่มเติมให้นักเรียนกลุ่มช่วงชั้นรอยต่อ ได้แก่ อนุบาล 3 ป.6 ม.3 ครอบคลุม 3 สังกัด ได้แก่ สพฐ. อปท. และบช.ตชด. และ ม.6 เฉพาะสังกัด บช.ตชด. คนละ 800 บาท จำนวนราว 3 แสนคน รวมงบประมาณมากกว่า 235 ล้านบาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย นักเรียนทุนเสมอภาคในช่วงเปิดเทอมที่ค่อนข้างสูง สวนทางกับรายได้ที่ลดลงหรือขาดหายไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มรอยต่อที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนย้ายสถานศึกษา เสี่ยงหลุดออกนอกระบบมากกว่าช่วงชั้นอื่นๆ โดยมีนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มรอยต่อมากกว่า 5,000 คน ที่แจ้ง กสศ. ตั้งแต่เทอม 2/2563 ว่า ไม่สามารถเรียนต่อในปีการศึกษา 2564 อีกต่อไป เพราะปัญหายากจนและความจำเป็นของครอบครัวต่างๆ
“ซึ่งหลังจากมีตรวจสอบฐานข้อมูลรายบุคคลล่าสุดพบว่า นักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มรอยต่อสังกัด สพฐ.จำนวน 271,792 คน ในปีการศึกษา 2/2563 ที่แจ้งว่าจะเรียนต่อในภาคเรียน 1/2564 ได้กลับมาแสดงตนลงทะเบียนเข้าศึกษาต่อในสังกัด สพฐ.จำนวน 214,202 คน หรือ ร้อยละ 78.81 ไม่พบในฐานข้อมูลทะเบียนนักเรียนสังกัด สพฐ. จำนวน 57,590 คน หรือ ร้อยละ 21.19 ทำให้เด็กเยาวชนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา ภายในสัปดาห์นี้ กสศ. และหน่วยงานต้นสังกัดทางการศึกษาจะเร่งหารือถึงมาตรการและแนวทางการติดตามช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มที่ยังไม่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนระดับอนุบาล 3 จำนวนมากกว่า 1,000 คน ที่ควรจะเข้าเรียนชั้น ป.1 และ นักเรียน ป.6 จำนวนมากกว่า 25,000 คน ที่ควรจะเข้าเรียนชั้น ม.1 ในปีการศึกษา 2564 นี้ ทั้งนี้ กสศ. จะเร่งประสานจัดส่งฐานข้อมูลนักเรียนทั้งหมดไปยังหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทุกแห่งทั่วประเทศต่อไป เพื่อเร่งติดตามช่วยเหลือให้นักเรียนได้กลับมาเรียนตามปกติ” ผู้จัดการ กสศ. กล่าว
นพ.สุภกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการบริหาร กสศ. ได้ประเมินผลกระทบจากการปรับลดงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2565 ที่คณะกรรมการบริหาร กสศ. ได้เสนอคณะรัฐมนตรีไปที่ 7,635.67 ล้านบาท แต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับลดงบประมาณ 2 ครั้งตามข้อเสนอของสำนักงบประมาณ เหลือ 5,652.29 ล้านบาท รวมการปรับลดทั้ง 2 ครั้งมากกว่า 2,000 ล้านบาท จะมีผลกระทบต่อเด็กเยาวชนในครัวเรือนยากจนด้อยโอกาสมากกว่า 700,000 คนที่มีความเสี่ยงจะหลุดออกจากระบบการศึกษาภายใต้สถานการณ์ โควิด-19 นี้ คณะกรรมการบริหาร กสศ. จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอขอแปรญัตติงบประมาณกลับคืนมา 904 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้รองรับจำนวนกลุ่มเป้าหมายนักเรียนยากจนพิเศษที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นราว 300,000 คน และป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาของนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มรอยต่อราว 400,000 คน ระหว่างปีการศึกษา 2564-2565 โดยปัจจุบันคณะอนุกรรมการฯ และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สภาผู้แทนราษฎร ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับ กสศ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |