"เป็ด เชิญยิ้ม" ธัญญา โพธิ์วิจิตร นักแสดงตลกอาวุโสร่ำไห้สุดทรมานเผาศพ คุณพ่อสุเทพ โพธิ์วิจิตร ที่เสียชีวิตด้วยโควิด-19 หลังจากที่คุณแม่เสียไปเมื่อ 7 วันก่อน ภาวนาชาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่อีกครั้ง โดยมีคนดังแวดวงการเมือง บันเทิงและกีฬาร่วมไว้อาลัยคับคั่ง
ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน นายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม นักแสดงตลกอาวุโส และครอบครัว นำร่างนายสุเทพ โพธิ์วิจิตร บิดาที่เสียชีวิตด้วยโควิด-19 ในวัย 94 ปี มาบำเพ็ญกุศลที่เมรุ 2 วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของคนในครอบครัว คนสนิท และบุคคลในแวดวงการเมือง บันเทิง และกีฬา ที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายชาญวิทย์ ผลชีวิน นายสะสม พบประเสริฐ นายองอาจ ก่อสินค้า น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นายสุประวัติ ปัทมสูต นายวรายุท มิลินทจินดา นายสุพล วิเชียรฉาย นายสมมาตร ไพรหิรัญ นายวิทยา ศุภพรโอภาส นายสุเทพ ประยูรพิทักษ์ นายพงษ์สิทธิ์ คำภีร์ นายอุเทน พรหมมินทร์ ว่าที่ ร.ต.ธนัญชัย เฮี้ยนชาตรี หรือ จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม
พิธีการเป็นไปอย่างกระชับ เรียบง่าย ตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยมีพระสงฆ์สวดอภิธรรมศพ 1 จบ แล้วเปิดให้คนในครอบครัว คนสนิท ทยอยวางดอกไม้จันทน์ที่โต๊ะเชิงบันไดขึ้นเมรุทีละคนจนครบ จากนั้นก็ทำการฌาปนกิจทันที และเก็บอัฐินำมาบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมอัฐิ ที่ศาลา 16 ในเวลา 18.00 น. เป็นเวลา 3 คืน
นายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตานองหน้าว่า ภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นภาพที่โหดร้ายทารุณ รู้สึกเจ็บปวดทรมานจิตใจมาก เพราะภาพแม่ที่ตายไปยังไม่ทันจางหาย วันนี้ต้องมาเจอภาพความตายของพ่ออีก ห่างกันเพียง 7 วัน ภาพเหมือนกันทุกอย่าง ที่ผ่านมาพยายามทำหน้าที่ลูกที่ดี ดูแลพ่อกับแม่ให้มีความสุข อายุยืนนาน แต่วันนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว
"สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม การสูญเสียพ่อกับแม่ห่างกันเพียง 7 วัน เป็นความเจ็บปวดทรมานใจมาก รู้สึกเหนื่อยมาก ตลอดชีวิตของผมเป็นนักสู้ เป็นคนสู้ชีวิตมาตลอด แต่วันนี้ขอ ขอยอมแพ้ ได้แต่บอกพ่อกับแม่ว่า ชาติหน้าขอให้ผมได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่อีก ไม่ว่าในชาตินั้นจะมีชีวิตที่ลำบากยากจนก็ตาม"
“แค่เห็นรถถอยมา มันก็นึกภาพที่รถคันนี้ถอยแม่มาแบบเดียวกัน พอเปิดมาเห็นสภาพเดียวกับที่เห็นแม่ ผมถามว่ามันโหดร้ายสำหรับผมมากไหม ทุกอย่างมันเหมือนกันหมด มันเป็นภาพเดียวกันหมด แล้วภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณไม่เกิน 7 วัน แล้วมาเชื่อมต่อ ลองคิดดูสิว่าอาจจะไหวไหม ซึ่งมันโหดร้าย มันทารุณ มันเจ็บปวด มันเกินที่จะบรรยายที่เราจะรับได้"
“เราเป็นลูกเราทำหน้าที่ของลูกที่ดีที่สุดให้กับแม่ เราต้องการให้พ่อแม่เรามีความสุข ใครพูดว่าแม่อายุ 89 พ่อ 94 อายุยืนนะเราดีใจ มีความสุขมาก เราอยากให้พ่อกับแม่อยู่เคียงข้างกันไปตลอด แต่มันไม่ใช่เห็นสภาพมาแบบนี้ผมเหนื่อย บอกตรงๆ ผมเหนื่อยมากๆ ปกติผมเป็นคนเข้มแข็งนะ เป็นนักสู้นะ แต่ผมยอมแพ้ ยอมจริงๆ ไม่เกิดกับใครไม่มีใครรู้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับครอบครัวเราแบบนี้”
“ในชีวิตผมจะลืมภาพเดิมๆ แบบนี้ไม่ได้ อีก 20-30 ปี ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ผมลืมภาพนี้ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ มันโหดร้าย มันทรมาน มันเจ็บปวด ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น ไม่รู้เอาอะไรมาบรรยาย น้ำตาเก่าที่เสียแม่ยังไม่ทันแห้ง น้ำตาใหม่ไหลมาที่แก้ม มันโหดร้ายมาก มันไม่ทิ้งระยะเวลาให้ผมได้มีคนปลอบใจผมเยอะๆ จนผมดีขึ้น ไม่มีแม้แต่เวลา เวลามันไล่เลี่ยกัน แค่สัปดาห์เดียวมันยาก มันเหนื่อย”
ตอนที่ก้มกราบหน้ารูปคุณพ่อ บอกกับพ่อว่า ขอให้แม่มารับไปสวรรค์ “ก็บอกให้พ่อไปสวรรค์ แม่มารับพ่อแล้ว พ่อไปอยู่กับแม่นะ ชาติหน้าผมขอ ไม่ว่าเราจะลำบากยากจน จะไม่มีกินสมัยเด็กๆ อีกสัก 10 เท่า ผมก็อยากจะเป็นลูกของเขาทั้งสองคน นี่คือความเจ็บปวดที่ผมเจอ มันไม่ไหวจริงๆ มันเหนื่อยจริงๆ มันเหนื่อยในอกมาก บางทีเราบอกเราเป็นคนเข้มแข็ง แต่ถึงเวลามันเข้มแข็งยังไงก็ไม่ไหว สิ่งที่มันเกิดขึ้นแบบนี้ ผมว่ามันไม่มีใครรับได้ มันรับได้ยากจริงๆ มันโถมมาแรงมาก”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |