ปฏิรูปตำรวจสกัดเด็กเส้น กำหนดเกณฑ์การบรรจุแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งทุกระดับอย่างละเอียด รับราชการชั้นสัญญาบัตรในตำแหน่งต่างๆ อย่างน้อย 33 ปี จึงมีโอกาสได้เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ปิดทางข้อครหาแก้กฎ ก.ตร. "ต่อยอดทอดสะพาน-ชักบันไดหนี" เอื้อประโยชน์บางบุคคล
เมื่อวันพฤหัสบดี นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เริ่มลงรายมาตรา ในหมวดการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งระดับต่างๆ ซึ่งจะเป็นการบัญญัติหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนไว้ในกฎหมายหลักระดับพ.ร.บ.เป็นครั้งแรก จากที่เคยบัญญัติอยู่ในกฎหมายลำดับรอง อาทิ กฎ ก.ตร. หรือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บางบุคคลเป็นพิเศษ
"การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแรกเข้า ที่ไม่ใช่ตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะ ให้ดำรงตำแหน่งในส่วนราชการใด ให้ดำเนินการดังนี้ 1.ถ้าผู้ที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ให้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรสูงสุดมีสิทธิเลือกก่อนตามลำดับ 2.ถ้าผู้ที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือแข่งขันได้ ให้ผู้ที่สอบคัดเลือกหรือแข่งขันได้เป็นลำดับที่ 1 มีสิทธิเลือกก่อนเรียงตามลำดับไป หากมีกรณีอื่นนอกเหนือจากนี้ ให้ดำเนินการตามวิธีการที่ ก.ตร.กำหนด"
นายคำนูณกล่าวว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรในระดับตำแหน่งต่างๆ ให้อยู่ภายใต้ 3 เกณฑ์ ดังนี้ ระยะเวลา พื้นที่ และการประเมินรายบุคคล เริ่มต้นจากเกณฑ์ระยะเวลา ได้กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำที่ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแต่ละคนจะต้องอยู่ตำแหน่งในแต่ละลำดับชั้นให้ครบก่อน จึงจะมีสิทธิได้รับการพิจารณาให้เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งในลำดับชั้นที่สูงขึ้น ดังนี้ 1.ตำแหน่งสารวัตร จะต้องดำรงตำแหน่งรองสารวัตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 ปี 2.ตำแหน่งรองผู้กำกับการ จะต้องดำรงตำแหน่งสารวัตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี 3.ตำแหน่งผู้กำกับการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
4.ตำแหน่งรองผู้บังคับการ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้กำกับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี 5.ตำแหน่งผู้บังคับการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี 6.ตำแหน่งรองผู้บัญชาการ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้บังคับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 7.ตำแหน่งผู้บัญชาการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 8.ตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี 9.ตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
"นั่นหมายความว่า ตามเกณฑ์ระยะเวลาทั่วไปนี้ ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรจะต้องดำรงตำแหน่งระดับชั้นต่างๆ อย่างน้อย 33 ปี จึงจะมีโอกาสได้เป็นแคนดิเดตตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากข้าราชการตำรวจแรกบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งรองสารวัตรหลังจบปริญญาตรีมีอายุ 22 ปี ก็จะมาอยู่ในตำแหน่งแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขณะมีอายุอย่างน้อย 55 ปี"
นายคำนูณกล่าวย้ำถึงเหตุผลสำคัญที่สุดในการกำหนดเกณฑ์ระยะเวลาขั้นต่ำในการดำรงตำแหน่งแต่ละระดับชั้นไว้ในกฎหมายหลักระดับ พ.ร.บ.ที่กล่าวไว้ข้างต้นอีกครั้ง ก็คือเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บางบุคคล ซึ่งเคยเกิดข้อครหาวิพากษ์วิจารณ์มาแล้วในอดีตเมื่อมีการเปลี่ยนหรือพยายามเปลี่ยนกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการนี้ ในลักษณะเสมือนเป็นการลดระยะเวลาระดับบน เพิ่มระยะเวลาระดับล่าง จนเกิดเป็นศัพท์สแลงบางคำ อาทิ 'ต่อยอดทอดสะพานสูง' หรือ 'ชักบันไดหนี' เป็นต้น
"เมื่อผ่านเกณฑ์เวลาแล้ว ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยังจะต้องพิจารณาจากอีก 2 เกณฑ์ คือ เกณฑ์พื้นที่ และเกณฑ์การประเมินรายบุคคล โดยเกณฑ์พื้นที่นั้นจะได้พิจารณาว่าการแต่งตั้งในระดับสารวัตรขึ้นไปจนถึงระดับรองผู้บังคับการ ให้พิจารณาจากผู้มีคุณสมบัติที่รับราชการอยู่ภายในภาคเดียวกันเท่านั้น ส่วนเกณฑ์การประเมินรายบุคคลนั้น จะได้กำหนดให้ข้าราชการตำรวจแต่ละคนมีคะแนนประจำตัวถ่วงน้ำหนักจาก 3 กรอบ คือ อาวุโส ผลงาน และความพึงพอใจของประชาชน ซึ่งจะได้พิจารณารายละเอียดในการประชุมครั้งต่อๆ ไป" นายคำนูณระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |