ผลวิจัยชี้...คู่สมรสไม่มีบุตรชีวิตแฮปปี้


เพิ่มเพื่อน    

 

              ถ้าย้อนกลับไปบางคนมองว่าการเป็นพ่อแม่ เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่จากการศึกษาใหม่ คู่แต่งงานที่ไม่มีลูกก็มีความสุขพอๆ กับคนที่มีความสุขในเรื่องทั่วไป

              ข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่นักจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน (MSU) ได้สอบถามผู้ใหญ่เกือบ 1,000 คนว่า พวกเขามีลูกหรือไม่ และระดับความพึงพอใจในชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างไร ทั้งนี้คำตอบของกลุ่มที่เข้าร่วมวิจัยดังกล่าว ระบุอีกว่าพวกเขารู้สึกพอใจในชีวิต อีกทั้งไม่ได้รู้สึกว่าผู้ที่มีลูกกับคนที่ไม่มีลูกนั้น มีความแตกต่างกันอย่างใด ที่น่าสนใจนั้นผู้ที่ตอบแบบสำรวจดังกล่าว มากกว่า 1 ใน 4 รายเลือกที่จะไม่มีบุตร ซึ่งเป็นสิ่งทีมวิจัยคาดไม่ถึง

              สำหรับการวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นโดย เจนิเฟอร์ วาทลิงค์ นีลส์” และ ซาชารี นีลส์” ซึ่งทั้งคู่เป็นรองศาสตราจารย์ในภาควิชาจิตวิทยา ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน MSU อีกทั้งทีมนักวิจัยทั้งสองได้ระบุว่า ผลการศึกษาของเขามีความพิเศษ เนื่องจากพวกเขาได้แยกกลุ่มของผู้ที่ไม่มีลูก หรือคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ไม่ต้องการมีบุตร ไม่มีบุตร แต่งงานแล้วและยังไม่ได้เป็นพ่อแม่

              .เจนิเฟอร์ วาทลิงค์ นีลส์  กล่าวว่า "การศึกษาส่วนใหญ่ ไม่ได้แยกถามคำถามระหว่างผู้ที่ไม่มีบุตร กับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตร ออกจากการเป็นพ่อแม่ในกลุ่มอื่นๆ เนื่องจากผู้ที่ไม่ใช่พ่อแม่อาจรวมถึง "ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพ่อแม่" หรือยังไม่ได้แต่งงาน รวมถึงยังเป็นกลุ่มของผู้ที่แต่งงานแล้ว และกำลังวางแผนที่จะมีลูกก็เป็นได้ทั้งสิ้น หรือแม้แต่คนที่ "ไม่มีบุตร" และยังไม่ได้เป็นพ่อแม่คน เนื่องจากมีบุตรยากเป็นต้น

 

 

               ซึ่งการศึกษาก่อนหน้านี้ได้รวบรวม ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ปกครองหรือยังไม่ได้มีบุตร รวมกันไว้ทั้งหมดในหมวดหมู่เดียว เพื่อเปรียบเทียบกับผู้ปกครอง ที่มีลูกและไม่มีลูกเท่านั้น

              แต่การศึกษาใช้ชุดคำถาม 3 ข้อ เพื่อพิจารณา เช่น กลุ่มของผู้คนมีลูก ต้องการมีบุตร หรือไม่ต้องการมีบุตรและคำถาม 3 ข้อ ซึ่งได้รับคำตอบทั้งหมด ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่  เช่น 3 คำถามข้างต้นได้แก่ 1.คุณมีหรือเคยมีบุตรทางสายเลือด หรือบุตรบุญธรรมหรือไม่? และ 2.คุณวางแผนที่จะมีลูกทางสายเลือด?(ลูกของตัวเองหรือไม่) หรือ 3.ต้องการมีบุตรบุญธรรมหรือไม่? และไม่ว่าแผนการมีบุตรในอนาคตของคุณจะเป็นอย่างไรนั้น โดยเฉพาะ 2 คำถามที่เกี่ยวกับความต้องการมีลูก หรือมีลูกบุญธรรมนั้น หากออกมาในแง่ของคำตอบที่บอกว่าไม่ ก็จะทำให้ทั้ง 3 คำถามข้างต้นเกี่ยวกับการมีบุตรนั้น เป็นไปในแง่ของการที่คู่สามีภรรยาไม่ต้องการมีบุตรนั่นเอง

              .เจนิเฟอร์  บอกอีกว่า หลังจากตรวจสอบลักษณะทางประชากรศาสตร์แล้ว เราไม่พบความแตกต่างในความพึงพอใจในชีวิต และความแตกต่างในลักษณะบุคลิกภาพ5 ระหว่างบุคคลที่ไม่มีบุตร กับผู้ปกครองที่แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นพ่อแม่ หรือบุคคลที่มีบุตรไม่ได้แต่อย่างใด หรือพบว่าบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม ไม่มีลักษณะทางกายภาพที่ต่างกันมากนัก แม้สถานการณ์ในการเลือกมีบุตรของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่าผู้ที่ไม่มีบุตร จะมีความคิดสบายๆในการใช้ชีวิต มากกว่าคู่แต่งงานที่มีลูก อีกทั้งผู้ที่ไม่มีลูกจะรู้สึกกระตือรือร้นมากว่าผู้ที่มีบุตรไม่ได้ และผลการวิจัยร้อยละ 27 เปอร์เซ็นต์นั้นของกลุ่มตัวอย่าง ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนในรัฐมิชิแกน ระว่าไม่มีบุตร ส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะไม่มีบุตร

 

              จากข้อมูลยังระบุอีกว่าประชากรผู้ใหญ่ ในรัฐมิชิแกนจำนวน 434 คนจาก 7.8 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในรัฐมิชิแกนในจำนวนกว่า 2 ล้านคน ระบุว่าไม่มีเด็ก 435 คน เนื่องจากไม่ต้องการให้มีลูก อีกทั้งข้อมูลข้างต้นที่ระบุว่า คนอเมริกันร้อยละ 27 เลือกที่จะไม่มีลูกนั้น เป็นอัตราที่สูงขึ้นมาก หรือเพิ่มจากการศึกษาครั้งก่อนคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 2-9 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังไม่รวมถึงผู้ที่ไม่มีบุตร เพราะมีไม่ได้อีกเป็นจำนวนเท่าไร

             


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"