“เอ็กซิมแบงก์” แจงเงินบาทแข็งค่าแล้วกว่า 12% แต่ยังไม่กระทบความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออกไทย ห่วงผู้ส่งออกเอสเอ็มอีภูมิต้านทานน้อย แนะปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
15 ม.ค. 61 – นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินบาทในปัจจุบันแข็งค่าขึ้นกว่า 12% แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก แต่ก็ทำให้ผู้ส่งออกไทยสูญเสียรายได้เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท อาจทำให้กลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอีอาจจะได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากมีเงินทุนหมุนเวียนและมีอัตรากำไร (margin) ไม่สูง และมีแรงต้านต่อเงินบาทที่แข็งค่าได้น้อย เนื่องจากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก และไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ปะทุขึ้นเป็นระยะ รวมถึงการเก็งกำไรในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนของกระแสเงินทุนเข้าออก ล้วนเป็นสิ่งที่คาดการณ์และควบคุมไม่ได้
ดังนั้นผู้ส่งออกจึงควรปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยซื้อประกันค่าเงิน (FX Opitons) ซึ่งผู้ส่งออกสามารถล็อกอัตราแลกเปลี่ยนที่จะมีการส่งมอบในอนาคตไว้ที่ราคา ณ ปัจจุบันได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่า รายได้ในรูปเงินบาทจะลดลงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกสามารถขายเงินตราต่างประเทศ ณ ราคาตลาดได้เช่นกันในกรณีที่เงินบาทในอนาคตกลับอ่อนค่าลง ถือเป็นการปิดความเสี่ยงด้านค่าเงินทั้งสองทาง ทำให้ผู้ส่งออกได้รับประโยชน์สูงสุด หรือขอใช้บริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contact) และหารือวิธีปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนกับสถาบันการเงินที่ใช้อยู่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |