ทำไมจึงไล่นายกฯ?


เพิ่มเพื่อน    

 

       เข้าพรรษา "พระเคร่งศีล" ยัง ๓ เดือน

                แล้วเรา-ชาว กทม.และปริมณฑล      

            "มินิล็อกดาวน์" เคร่งวินัยกัน ๑๔ วัน เพื่อให้กระสือสายพันธุ์เดลตา มันหาปอดกินไม่ได้ อดอยากปากแห้งตายไปเอง ก็จะเป็นไรไป!

            วินัยที่ ศบค.ชุดใหญ่บัญญัติเป็นมาตรการให้ประชาชนปฏิบัติ จาก ๑๒ ก.ค.๖๔ ไปจนถึง ๒๕ ก.ค.๖๔  ตามที่ Warat Karuchit สรุปประกาศ ศบค.เป็นดังนี้

            มาตรการล็อกดาวน์ สำหรับ กทม., ปริมณฑล (นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร,  นครปฐม) เป็นเวลา ๑๔ วัน

            1.ห้ามรวมตัวเกิน 5 คน ที่ไม่ใช่การทำงาน หรือกิจกรรมทางศาสนา/ประเพณี

                2.ห้าง เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร+เครื่องดื่ม ธนาคาร ร้านขายยา อุปกรณ์สื่อสาร จุดฉีดวัคซีน  เปิดได้ถึง 2 ทุ่ม

                3.ร้านอาหาร+เครื่องดื่ม เปิดได้ถึง 2 ทุ่ม ห้ามกิน+ดื่มในร้าน

                4.สวนสาธารณะ เปิดได้ถึง 2 ทุ่ม

                5.ร้านสะดวกซื้อ ตลาด เปิดได้ตั้งแต่ ตี 4-2 ทุ่ม

                6.ขนส่งสาธารณะ เปิดตั้งแต่ ตี 4-3 ทุ่ม

                7.ปิดร้านนวด สปา เสริมความงาม

                8.work from home ให้มากที่สุด + เรียนออนไลน์

                9.ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่ 3 ทุ่ม - ตี 4 ยกเว้นมีความจำเป็น

                10.ปิดแคมป์ก่อสร้างต่อไป

                11.มีผลวันจันทร์ที่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป

                12.ทั่วประเทศ เริ่มมีด่านคัดกรองโรคตั้งแต่วันที่ 10  ก.ค. เวลา 06.00 น. โดยเฉพาะผู้มาจากจังหวัดสีแดงเข้ม

            จะสังเกตเห็นว่า.....

            ทั้งคำแถลงและเอกสาร ไม่ใช้คำว่า ล็อกดาวน์, เคอร์ฟิว เป็นมาตรการเชิง "ขอความร่วมมือ" กลายๆ

            ทำนอง โตๆ จนเลียตูดหมาไม่ถึงกันแล้ว....

            เมื่อสถานการณ์โรคระบาดมาถึงขนาดนี้ ยอดป่วย/ยอดตาย แทงยอดแข่งกันวันละเป็นหมื่น ถ้ายังจะสิทธิเสรีภาพ "อารยะขัดขืน" ตามใจชอบกันอีกละก็

            ผลที่ได้ ก็อย่างที่เป็น/ที่เห็น ป่วยหมื่น ตายใกล้หลักร้อยอยู่รอมร่อนั่นแหละ!

            และไม่ใช่ใคร ก็พวกเรา ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงพวกเรากันเองนี่แหละ ที่ป่วยและตาย

            ดังนั้น มาตรการมินิล็อกดาวน์ ไม่ใช่เพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อรัฐบาล เพื่อแพทย์-พยาบาล ก็เพื่อพวกเรากันเองทุกคนโดยตรง

            พวกจ้องแหกกฎ-แหกมาตรการก็มี!

            นายกฯ เอาพวกนี้ให้มันเด็ดขาดจริงๆ ซะทีเถอะ ไม่ต้องกลัวมันด่าหรอก ทุกวันนี้ มันก็กระหน่ำด่า เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ อยู่แล้ว

            เรื่องสำนึกดี เรื่องร่วมมือเพื่อส่วนรวม ในหมู่ "รวมพวกชั่ว" อย่าไปหวัง มันไม่มีในกระดองสันดานหรอก

            ก็ขนาดนายกฯ สละเงินเดือน ๓ เดือน เพื่อกิจการโควิด คนจิตใจมนุษย์ ถ้าไม่วางเฉย ก็อนุโมทนา

            ก็มีแต่พวกฝ่ายแค้นที่สูญเสียอำนาจกินเมือง กับพวกชังชาติมุ่งมาดโค่นล้มรัฐบาลเพื่อล้มสถาบันต่อนั่นแหละ

            พวกนี้ถือการสละเงินเดือนของนายกฯ เป็นเรื่องชั่วร้าย เพราะเกินหน้า เกินสันดานพวกมันที่มีแต่ฉกฉวยเข้ากระเป๋า เมื่อนายกฯ ทำในสิ่งที่นักฉกฉวยการเมืองทำไม่ได้ และไม่เคยทำ ก็แก้ขวยด้วยการสรรคำประชดประเทียดเปรียบเปรย ด่าว่านายกฯ

            การพูด/โพสต์/สัมภาษณ์ ด้วยคำว่า "ให้นายกฯ ออกไป" มันยากนะ

            ถ้าคนพูด/คนโพสต์..........

            หนังไม่ลายดอก เหมือนตัวลากหางข้างทำเนียบ!

            เพราะคนมีสำนึกคน คนมีเหตุมีผล......

            เขาจะรักหรือจะเกลียดนายกฯ นั่นส่วนหนึ่ง แต่ในธาตุดีของคนมีเหตุมีผล เขาจะชั่งน้ำหนักได้ว่า ในภาวะโรคระบาดเฉพาะหน้านี้

            การให้ "นายกฯ ออกไป" มันไม่มีผลดีกับสถานการณ์รวมขณะนี้แต่อย่างใด นอกจากแค่ "สะใจสถุลชน" ที่คอยส้มหล่นทางการเมือง!

            ตรงกันข้าม จะเลวร้ายยิ่งขึ้น เหมือนเรือในทะเล "ขาดหางเสือ" ขณะมรสุม!

            โฆษกพรรคค้านบางพรรคกับบางนาง ถ้าไม่บอกว่าเป็น ส.ส.ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน คนก็จะเข้าใจว่า ซิ้มขายยาดม, ยาหม่องตามส้วมสาธารณะ เพราะเสื้่อผ้า, หน้า, ผม มันให้
            ซ้ำวาจาหยาบคายต่ำสัตว์สมสกุลเกิดชัดขึ้นทุกวัน กับคำสรรใช้ด่านายกฯ!

            เป็นเมียใคร แม่ใคร คงได้เมียและแม่ดีเด่นซักวัน เมื่อทอนหรือพิธาได้ขึ้นนั่งนายกฯ!

            หนึ่งในมาตรการสกัดกั้นเดลตา ไม่ให้รวมตัวเกิน ๕  คน

            พวกส่ำสัตว์เหลือทน มันสนซะที่ไหน

            เห็นประกาศยุทธการ "ต่อหางเหี้ย" จตุพรเข้าคุก มันก็จะออกมาชุมนุมสานต่อกันอีกวันนี้่ (๑๐ ก.ค.๖๔)

            พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็มี ต่อไปถึงเดือนกันยามิใช่หรือ งัดมาใช้ให้มันชะงัดซักทีเถอะน่า

            ทุกวันนี้ กฎหมายมี "เหมือนไม่มี" การใช้ ก็ชะงัดนักกับพวกตาสี-ตาสา แต่กับหมามีปลอกคอ ใช้แบบอ้อร้อกันเหลือเกิน

            พูดกันว่า "กฎหมายเสื่อม"

            กฎหมายน่ะ "ไม่เสื่อม" หรอก ถ้ามันเสื่อม ผู้รักษากฎหมายและผู้ใช้กฎหมายนั่นตะหาก ที่ "เสื่อม"!

            นายกฯ ประยุทธ์.........

            ถึงตอนนี้ "ไม่มีอะไรจะเสีย" แล้ว ดีกับคนเลวขนาดไหน มันยังด่าจนราชบัณฑิตคิดคำใหม่ไม่ทัน

            ฉะนั้น ควรร้ายกับพวกเลวเพื่อคนดีบ้าง บ้านจะได้เป็นบ้าน เมืองจะได้เป็นเมืองซะที

            ก็คิดดูซี ขนาดคนยังไม่กลัวอำนาจรัฐ แล้วโควิดเดลตามันจะกลัวทำไม ในเมื่อรัฐมีอำนาจแล้ว "กัดไม่เข้า"

            ความเกรงใจและการเอาใจคน จนทำให้ดูเหมือนผู้นำอ่อนแอ, แหย, ไม่กล้า, เสียงดัง, หน้าแดง, ปากแข็ง แต่ตูดนิ่มป๋อย

            ทำให้การด่านายกฯ ด้วย "สารพัดคำ" เป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็ด่าได้ นายกฯ เป็นหัวหลัก-หัวตอสาธารณะ คนผลักไป-ผลักมา ทำอะไรก็ได้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            นี้...ไม่ใช่ประชาธิปไตย ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพ แต่มันเป็นหลักคนถ่อย-คนเถื่อน รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดหมวดหน้าที่ปวงชนชาวไทย

            มาตรา ๕๐ บุคคลมีหน้าที่ต่อไปนี้

            (๖) เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม

            กฎหมายพิทักษ์เกียรติผู้นำรวมทั้งประมุขประเทศก็มี  แต่ผู้รักษากฎหมายเหมือนไม่รู้-ไม่เห็น

            นายกฯ ควรต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายซะที ทุกวันนี้ เชือกร้อยลูกระนาดมันหย่อน ตีดังก็จริง แต่เพี้ยน มีค่าแค่โยนใส่เตาฟืนไปเท่านั้น

            ฉะนั้น งานตำรวจท่านก็นั่งหัวโต๊ะ ขึงให้มันตึงซะที จะได้ตีแล้วฟังเข้าหูประชาชนหน่อย

            ไม่งั้น ชาวบ้านรำคาญขึ้นมา สมทบโจร "พังเมือง" ก็จะว่าใครไม่ได้ เพราะนายกฯ ได้แต่ เด็ด..เด็ด..แต่ไม่เคย "ขาด" ซักที!

            มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วล่ะครับท่าน..ตอนนี้ ที่ทำมาทั้งหมด มันว่าท่านทำไม่ดี เป็นนายกฯ ทำบ้านเมืองถอยหลัง

            ท่านก็ลอง "ไม่ดี" ให้มันเห็นจริงให้เต็มสตีมซักทีซิ

            เผื่อจะถูก "จัญไรจริต" พวกมัน

            แล้วชมท่านว่า "นายกฯ ดี" บ้าง!?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"