วิกฤติหนัก! ติดเชื้อใหม่เฉียดหมื่น ตาย 72 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่เพียบ สมุทรปราการยังอ่วม! ผู้ป่วยใหม่ 437 ราย ปัตตานีป่วน ปชช.กลับมาจากมัรกัสยะลาแพร่เชื้อต่อกว่า 100 คน อำนาจเจริญสั่งปิดโรงเรียนจนถึง 25 ก.ค.
    เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,276 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 8,975 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,324 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,651 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 278 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 317,506 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 3,928 ราย หายป่วยสะสม 240,077 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 74,895 ราย อาการหนัก 2,685 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 701 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 72 ราย เป็นชาย 40 ราย หญิง 32 ราย อยู่ใน กทม. 39 ราย,  นครปฐม 7 ราย, ปัตตานี 6 ราย, ยะลา กาญจนบุรี จังหวัดละ 3 ราย, เพชรบุรี สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย, เชียงราย เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี ร้อยเอ็ด ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก สงขลา สระแก้ว ปทุมธานี อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 2,534 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 186,330,643 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,026,186 ราย 
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 9 ก.ค. ได้แก่ กทม. 3,116 ราย, สมุทรสาคร 544 ราย, สมุทรปราการ 437 ราย, ลพบุรี 341 ราย, ชลบุรี 317 ราย, พระนครศรีอยุธยา 265 ราย, ฉะเชิงเทรา 243 ราย, นนทบุรี 236 ราย, ปัตตานี 214 ราย และนครปฐม 211 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร ที่โรงงานขนมขบเคี้ยว อ.กระทุ่มแบน พบผู้ติดเชื้อ 29 ราย, จ.สมุทรปราการ ที่แคมป์ก่อสร้าง อ.บางพลี 35 ราย, จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ชุมชน Factory land อ.วังน้อย 177 ราย, จ.ฉะเชิงเทรา ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งใน อ.พนัสนิคม 23 ราย, จ.สระบุรี ที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนโลหะ อ.หนองแค 64 ราย, จ.ลำปาง ที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อ.เมืองฯ
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) น.อ.นพ.พิสิทธิ์ เจริญยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านปฏิบัติการฉุกเฉิน โฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)​ แถลงว่า สพฉ.ได้มองหากลไกในการที่จะทราบว่ามีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่ใดบ้าง ในเบื้องต้น สพฉ.จะเปิดช่องทางรับข้อมูลทางเพจเฟซบุ๊ก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือเป็นการรับข้อมูลต่อจากสื่อภาคประชาสังคมต่างๆ ที่มีประชาชนส่งข้อมูลเข้าไปขอความช่วยเหลือ เช่น เพจเราต้องรอด หรือกลุ่มอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยในเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งข้อมูลจากสายด่วน 1668 กรมการแพทย์ 1330 สปสช. ที่มีการคัดกรองข้อมูลผู้ป่วยแล้ว เมื่อได้รับข้อมูลมาแล้ว สพฉ.รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดลำดับความเร่งด่วน และจะประสานกับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย เช่น ศูนย์นิมิบุตร โรงพยาบาลบุษราคัม ในการเตรียมการรองรับผู้ป่วย พร้อมกับส่งทีมปฏิบัติการเชิงรุกออกดำเนินการรับผู้ป่วยนั้นไปส่งยังสถานพยาบาลปลายทางโดยทันที แต่หากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติที่ต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ ทางศูนย์นเรนทร สพฉ. จะประสานงานกับศูนย์เอราวัณหรือศูนย์สั่งการ 1669  ของจังหวัดต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
    น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามข้อสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ.ศบค. ที่ให้เร่งเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยโควิดทาง สธ.ได้ทำการต่อสัญญาใช้สถานที่เมืองทองธานี สำหรับทำโรงพยาบาลบุษราคัมต่อไปอีกจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.2564 แล้ว ทำให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยมีอาการ (สีเหลือง) ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตลอดจนผู้ป่วยจากจังหวัดใกล้เคียงได้ประมาณ 4,000 เตียง นอกจากนี้ สธ.ร่วมกับกระทรวงคมนาคมเตรียมตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ อาคาร Satellite 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,000 เตียงในระยะแรก และคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้อีกไม่นานนี้  รวมทั้งยังได้ร่วมกับภาคเอกชนเพื่อรองรับผู้ป่วยระดับสีแดงและ รพ.สนาม รวมถึงการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อโรงพยาบาลของ กทม.ด้วย
    สำหรับสถานการณ์ในต่างจังหวัด ที่ จ.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 437  ราย ไม่มีเสียชีวิต รวมเสียชีวิตสะสม 202   ราย ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ได้มีการออกประกาศสั่งปิดตลาดสายหยุด ตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และอาคารโดยรอบที่มีลักษณะเป็นร้านค้าที่มีการค้าขายเป็นประจำ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 9- 22 ก.ค.
    ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ก็สั่งปิดโรงงานไทยแอโรว์ ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก โรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ชุดสายไฟในรถยนต์เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11-17 ก.ค. ขณะที่วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 39 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต 
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รายงานว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 19 ราย ในขณะที่ จ.บุรีรัมย์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย กระจายใน 17 อำเภอ, จ.ศรีสะเกษ มีผู้ป่วยเพิ่ม 43 ราย ผู้ป่วยสะสม 832 ราย, จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 71 ราย โดยกระจายในพื้นที่อำเภอต่างๆ 31 อำเภอ, จ.ขอนแก่น พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่เกิดขึ้นวันนี้ 44 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย,  จ.อำนาจเจริญ มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 18 ราย และ จ.นครพนม พบผู้ป่วยยืนยันผลเพิ่ม 23 ราย ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯ และปริมณฑล 
    ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่จังหวัดปัตตานี พบผู้เสียชีวิตมากขึ้นทุกวัน และผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ซึ่งยังคงขยายเข้าทุกพื้นที่ ทำให้ทุกอำเภอเป็นพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมไม่ได้ โดยวันที่ 8 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 215 คน ยอดสะสม 3,896 คนรักษา 1,912 คน และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 5 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 33 คนแล้ว คาดว่าวันนี้ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอีก
    ขณะที่ อ.มายอ น่าตกใจ หลังพบประชาชนรายหนึ่งที่กลับจากมัรกัสยะลา แต่ไม่ยอมมารายงานตัว และเจ้าตัวก็ไม่ทราบว่าติดเชื้อแล้ว เพราะไม่แสดงอาการแต่อย่างใด ปรากฏว่าได้ไปแพร่เชื้อกับคน อื่นๆ และคนในครอบครัวกว่า 100 คน ส่งผลให้ อ.มายอต้องมีสอบสวนรายดังกล่าวว่าไปที่ไหนอีกบ้าง ซึ่งเมื่อประชาชนรายอื่นทราบข่าวนี้และเชื่อว่าอาจจะสัมผัส ต่างกังวล และเดินทางไปรายงานตัวเป็นจำนวนมาก
    จ.สงขลา มีการตรวจเชิงรุกอย่างเข้มข้น พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดจากครอบครัวและหน่วยงาน 170 คน เสียชีวิต 1 ราย ส่งผลให้ติดเชื้อสะสม 7,393 ราย รักษาหายแล้วกว่า 4,300 คน ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 3,000 คน เสียชีวิตสะสม 29 คน.