9 ก.ค. 64 - ที่กระทรวงสาธารณสุข น.อ.นพ.พิสิทธิ์ เจริญยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านปฏิบัติการฉุกเฉิน โฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)​ แถลงถึงแผนการดำเนินการปฏิบัติการเชิงรุก ตามคำสั่งของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการให้เร่งดำเนินการในการค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงขึ้นในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งยังรอการรักษาอยู่ที่บ้านนั้น

โฆษก สพฉ.กล่าวว่า ภายหลังจากได้มีข้อสั่งการจากรองนายกรัฐมนตรี ทาง สพฉ. ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดวิธีการต่างๆที่จะดำเนินการช่วยผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งยังอยู่ตามบ้าน โดย สพฉ.ได้มองหากลไกในการที่จะทราบว่ามีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่ใดบ้าง ในเบื้องต้น สพฉ. จะเปิดช่องทางรับข้อมูลทางเพจเฟซบุ๊ค สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือเป็นการรับข้อมูลต่อจากสื่อภาคประชาสังคมต่างๆ ที่มีประชาชนส่งข้อมูลเข้าไปขออความช่วยเหลือ เช่น เพจเราต้องรอด หรือกลุ่มอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยในเครือข่ายต่างๆรวมทั้งข้อมูลจากสายด่วน 1668 กรมการแพทย์ 1330 สปสช. ที่มีการคัดกรองข้อมูลผู้ป่วยแล้ว

เมื่อได้รับข้อมูลมาแล้ว สพฉ. รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดลำดับความเร่งด่วน และจะประสานกับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย เช่น ศูนย์นิมิบุตร โรงพยาบาลบุษราคัม ในการเตรียมการรองรับผู้ป่วย พร้อมกับส่งทีมปฏิบัติการเชิงรุกออกดำเนินการรับผู้ป่วยนั้นไปส่งยังสถานพยาบาลปลายทางโดยทันที แต่หากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่ต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ ทางศูนย์นเรนทร สพฉ. จะประสานงานกับศูนย์เอราวัณหรือศูนย์สั่งการ 1669 ของจังหวัดต่างๆเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ผลการปฏิบัติงานของทีมปฏิบัติการนำส่งผู้ป่วยของ สพฉ. ในวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา สามารถนำผู้ป่วยในเขตกรุงเทพมหานคร ไปส่งยังโรงพยาบาลได้ทั้งสิ้น 167 ราย ซึ่งเมื่อนับรวมสะสมตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 64 จนถึงปัจจุบันสามารถนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลได้ 10,735 ราย