ทางการเฮติเผยว่า ทีมติดอาวุธที่บุกเข้าไปสังหารประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส เมื่อเช้ามืดวันพุธนั้นมีด้วยกัน 28 คน เป็นชาวโคลอมเบีย 26 คน อีกสองเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติ เกือบทั้งหมดถูกจับกุมหรือไม่ก็โดนฆ่า ไต้หวันเผยผู้ต้องสงสัยเข้าไปหลบในสถานทูตโดนจับได้ 11 ราย
ลีออน ชาร์ลส์ ผู้บัญชาการตำรวจเฮติ แถลงข่าวที่บ้านของนายกรัฐมนตรีในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 (Photo by Richard Pierrin/Getty Images)
เหตุการณ์ลอบสังหารอย่างอุกอาจคร่าชีวิตผู้นำเฮติวัย 53 ปีที่บ้านของเขาในกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อเช้ามืดวันพุธที่ 7 กรกฎาคม สุ่มเสี่ยงจะทำให้ประเทศที่มียากจนที่สุดในภูมิภาคอเมริกาแห่งนี้ยิ่งถลำสู่ความโกลาหลวุ่นวาย นายกรัฐมนตรีรักษาการคล็อด โจเซฟ ซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉิน "สถานการณ์ที่ต้องเข้าควบคุมพื้นที่" นาน 15 วัน และบอกว่าเขาคือผู้กุมอำนาจสูงสุดในประเทศขณะนี้ กำลังเผชิญการท้าทายจากอาเรียล อองรี ที่โมอิสประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนโจเซฟ
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม กล่าวว่า คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ลีออน ชาร์ลส์ ผู้บัญชาการตำรวจเฮติ แถลงข่าวพร้อมกับนำผู้ต้องสงสัย 17 รายมาร่วมในการแถลงข่าว โดยแสดงหลักฐานที่มีทั้งหนังสือเดินทางโคลอมเบีย, ปืนไรเฟิลจู่โจม, มีด, วิทยุสื่อสาร และอุปกรณ์ เช่น กรรไกรตัดเหล็กและค้อน
"พวกคนต่างชาติเข้ามาในประเทศของเราแล้วฆ่าประธานาธิบดี" ชาร์ลส์กล่าว พร้อมระบุว่า ทีมนี้มีชาวโคลอมเบีย 26 คน และอเมริกันเชื้อสายเฮติอีก 2 คน
ก่อนหน้านี้ ทางการเฮติ ซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศสและครีโอลเฮติเป็นภาษาราชการ กล่าวว่า ทีมสังหารที่บุกจู่โจมบ้านของประธานาธิบดีพูดภาษาอังกฤษและสเปน
พวกที่โดนจับกุมแล้วนั้นประกอบด้วยชาวโคลอมเบีย 15 คน และอเมริกันเฮติ 2 คน คนร้าย 3 คนโดนวิสามัญฆาตกรรม ตำรวจกำลังตามล่าอีก 8 คนที่เหลือ ชาร์ลส์กล่าวอีกว่า ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสต่อตำรวจ ซึ่งตามรอยผู้ต้องสงสัยไปถึงบ้านหลังหนึ่งในเขตเปชิยงวีล ทางเหนือของเมืองหลวงที่มีประชากร 1 ล้านคนแห่งนี้ จนเกิดการยิงปะทะกันเมื่อคืนวันพฤหัสบดี
ด้านดีเอโก โมลาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโคลอมเบีย กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ผู้ต้องสงสัยชาวโคลอมเบียที่เข้าร่วมการสังหารครั้งนี้มีอย่างน้อย 6 คนเป็นอดีตทหาร เขาบอกด้วยว่าได้สั่งการให้กองทัพและตำรวจให้ความสนับสนุนการสอบสวนในเฮติ
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับเฮติ ยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัย 11 คนโดนจับกุมภายในสถานทูตของไต้หวัน หลังจากชายติดอาวุธกลุ่มนี้บุกเข้ามาภายในสนามหญ้าของสถานทูต ซึ่งเวลานั้นถูกปิดเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยภายหลังการลอบสังหารโมอิส สถานทูตอนุญาตให้ตำรวจเฮติเข้าไปปฏิบัติการภายใน โดยกระบวนการผ่านไปอย่างราบรื่น
ด้านมัตเทียส ปิแอร์ รัฐมนตรีการเลือกตั้งและกิจการระหว่างพรรค ระบุชื่อผู้ต้องสงสัยชาวอเมริกันเฮติว่า รายหนึ่งคือ เจมส์ โซลาจส์ อายุ 35 ปี อีกคนคือโจเซฟ แวงซองต์ อายุ 55 ปี
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีพลเมืองอเมริกันโดนเฮติจับกุมหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่เฮติ รวมถึงกับพนักงานสอบสวน เพื่อหารือว่าสหรัฐจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยข้อสันนิษฐานถึงมูลเหตุจูงใจของการสังหาร ทว่า นับแต่ขึ้นสู่อำนาจในปี 2560 โมอิสเผชิญการชุมนุมประท้วงขับไล่ ทั้งจากข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน, ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และความพยายามยื้ออำนาจต่อ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |