ห่วงถังสารเคมีตกค้าง  ควบคุมอุณหภูมิ24ชม


เพิ่มเพื่อน    

‘สุริยะ’ เผยชุมชนรอบโรงงานหมิงตี้กลับเข้าพื้นที่ได้แล้ว ย้ำอากาศ-น้ำโดยรอบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่อันตรายต่อสุขภาพ ห่วงถังเก็บสารเคมีตกค้างให้เฝ้าระวังต่อ ผู้เชี่ยวชาญ-กู้ภัยลำเลียงใส่ DEHA ยับยั้งปฏิกิริยาคายความร้อนก่อระเบิดซ้ำ สอบปากคำ ปชช.ที่ได้รับผลกระทบแล้ว 500 ราย เสียหายเบื้องต้น 250 ล้านบาท
วันที่ 8 ก.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรณีไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 30 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งแรงระเบิดทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นวงกว้าง และได้มีการอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัยในรัศมี 5 กิโลเมตร โดยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ และสารเคมีที่ตกค้างในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ล่าสุดจากการลงพื้นที่ของ กรอ.พบว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนโดยรอบ แต่เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณโดยรอบโรงงาน เพราะยังมีสารเคมีตกค้างในโรงงาน อาจเกิดปฏิกิริยาเคมีและเกิดระเบิดได้ ขณะนี้ได้ฉีดน้ำเพื่อรักษาอุณหภูมิไว้ไม่ให้เกิดปฏิกิริยาเคมี 
    “จากการตรวจสอบมลพิษช่วง3 วันที่ผ่านมา พบว่า พื้นที่บริเวณโดยรอบในระยะ 0-8 กม. จำนวน 14 จุด มีค่าสารสไตรีนที่เกิดเผาไหม้ในอุบัติเหตุอยู่ในช่วง 0.42-0.83 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ไม่เกินมาตรฐานบรรยากาศตามที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กำหนดที่ 20 ppm ขณะที่คุณภาพน้ำตรวจสอบพบสารสไตรีนในน้ำจากการดับเพลิงที่อยู่ในบริเวณโรงงาน แต่ไม่พบสารสไตรีนปนเปื้อนในคลองปากน้ำและคลองประเวศบุรีรมย์หน้าวัดสังฆราช จากข้อมูลด้านมลพิษสิ่งแวดล้อมจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ ประชาชนโดยรอบสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สถานการณ์สารมลพิษไม่อยู่ในระดับก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ควรงดใช้น้ำคลองเพื่อการอุปโภคบริโภคช่วงนี้เป็นการชั่วคราว อก.จะเร่งดำเนินการรื้อถอนปรับปรุงสภาพพื้นที่ ตลอดจนนำกากของเสียที่เกิดจากอุบัติภัยออกไปกำจัดตามหลักวิชาการและความปลอดภัย" นายสุริยะกล่าว 
    รมว.อุตสาหกรรมกล่าวต่อว่า ส่วนของการเยียวยาประชาชน กระทรวงได้สั่งให้โรงงานดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงาน มาตรา 39 (1) เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายที่ประชาชนจะต้องได้รับอย่างเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ 3 แห่ง คือ 1.หน้าโรงงานหมิงตี้ 2.สถานีตำรวจบางแก้ว และ 3.สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถไปติดได้ตามจุดที่เปิดบริการดังกล่าว ทั้งนี้ อก.จะร่วมเป็นหน่วยงานกลางประสานเพื่อเยียวยาประชาชน เพื่อประโยชน์ในการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงได้กำหนดมาตรการป้องกันโรงงานที่มีความเสี่ยง โดยระยะสั้นให้ กรอ.จัดทำหนังสือแจ้งให้โรงงานปฏิบัติตามแผนบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยให้ประสานกับสำนักอุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเร่งด่วน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ในทุกช่องทาง และระยะยาวกำชับให้ กรอ.และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจัดลำดับโรงงานที่มีความเสี่ยงและตรวจสอบอย่างเป็นระบบ 
     ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดี กรอ. กล่าวว่า กรอ.ตรวจสอบแล้วมีสารสไตรีนโมโนเมอร์ตกค้างอยู่ภายในถังเก็บประมาณ 1,000 ตัน และมีอุณหภูมิเกินกว่า 70 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ปลอดภัยในการเข้าใกล้ถัง เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาคายความร้อนออกมาจำนวนมาก เป็นเหตุให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้อีก จึงประสานผู้เชี่ยวชาญให้ขจัดสิ่งกีดขวางรอบๆ ถังเก็บ และให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำไปที่ถังเก็บสารสไตรีน พร้อมทั้งใส่สารเคมีรอบๆ ถังเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยต้องการลดอุณหภูมิลงให้ได้ต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องอีก 24 ชั่วโมง จนแน่ใจว่าสามารถควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ หลังจากนั้นจะพยายามสอดท่อลงไปทางด้านบนเพื่อใส่สาร DEHA ลงไปเพื่อยับยั้งปฏิกิริยา ทั้งนี้ หลังจากปรับสภาพได้ตามข้อกำหนดแล้วจะส่งสารสไตรีนไปกำจัด ณ โรงงานบำบัดกำจัดของเสียอันตรายที่ได้รับอนุญาตจาก กรอ.ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเหตุเพลิงไหม้โรงงานว่า ขณะนี้ทางศูนย์รับแจ้งความเสียหาย ณ สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จ.สมุทรปราการ สอบปากคำผู้ที่ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 500 ราย รวมมูลค่าความเสียหายที่ได้รับแจ้งจากผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้นประมาณ 250 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ค.) โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ รถยนต์สายตรวจ รถจักรยานยนต์สายตรวจ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนภารกิจการป้องกันเหตุร้าย และไม่ให้กลุ่มเหล่ามิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งศูนย์พักพิงและบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สนับสนุนภารกิจการเคลื่อนย้ายประชาชนส่งกลับบ้าน ชุมชน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"