ประธานบอร์ด กทพ.ไขก็อกลาออก หลังขัดแย้งปมสรรหาผู้ว่า-ทีเอฟเอฟ คาดกทพ.เสียรายได้ 2 แสนล้านพร้อมดอกเบี้ยสองเด้ง หวั่นนักลงทุนไม่เชื่อมั่น-รายได้มาช้า เปิดโผ 4 รายชื่อชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯลุ้นคมนาคมชี้ขาด

8 มิ.ย. 61- รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) แจ้งว่า พลเอกวิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ยื่นใบลาออกจากการดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด โดยมีกระแสข่าวว่าสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องสรรหาผู้ว่าการคนใหม่ ตลอดจนปัญหาเรื่องโครงการทางด่วน พระราม3-ดาวคะนอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเปิดระดมทุนใทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์(TFF) ซึ่งพลเอกวิวรรธน์ ผลักดันมาตลอด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าประธานบอร์ดกทพ.ได้ยื่นใบลาออกจริง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. โดยมีผลทันที ทำให้หลังจากนี้ต้องเตรียมตั้งประธานบอร์ดคนใหม่เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่อไป

แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่มีการชี้แจงจากประธานบอร์ด แต่ที่ผ่านมานั้นคณะกรรมการในบอร์ดมีความคิดเห็นไม่ตรงกันเรื่องการระดมกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์(TFF)เพื่อก่อสร้างทางด่วน 2 สายซึ่งเป็นนโยบายโปรโมทของรัฐบาลที่ต้องการลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศ โดยฝ่ายที่คัดค้านนั้นเห็นว่าTFF เป็นโครงการที่กทพ.เสียเปรียบด้านรายได้และการรับความเสี่ยงของโครงการเพราะกทพ.เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างรับความเสี่ยงเองทั้งหมดขณะที่นักลงทุนไม่ต้องรับภาระใดเลย 

อย่างไรก็ตามขณะที่การวิเคราะห์ตัวเลขความคุ้มค่าโครงการพบว่ากทพ.จะสูญเสียรายได้ราว 2 แสนล้านบาท ตลอดระยะเวลา 30 ปี ตามเงื่อนไขของกองทุนTFF ซึ่งมีดอกเบี้ยสูงถึง8% นอกจากนี้หากการระดมทุนTFFยังต้องเลื่อนออกไปอีก กทพ.จะต้องกู้เงินอีกเกือบ 1 หมื่นล้านบาทมาพร้อมกับดอกเบี้ยร้อยละ 3 จึงเป็นเหมือนการเสียดอกเบี้ยสองต่อ เพื่อนำเงินกู้มาสำรองจ่ายให้เอกชนที่ชนะการประมูลโครงการทางด่วนพระราม 3- ดาวคะนอง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องเปิดประมูลและก่อสร้างตามแผนภายในปีนี้ 

แหล่งข่าวกล่าวว่ามีบางฝ่ายมองว่าการระดมทุนTFF ทางด่วนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้หรือไม่เพราะโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 (N2) วงเงิน 1.5 หมื่นล้านตามแผนเดิมที่ต้องเร่งก่อสร้างเพื่อหารายได้เข้ากองทุนนั้นต้องเลื่อนแผนประกวดราคาและก่อสร้างออกไปภายหลังจากที่ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกกลาง(คจร.)ได้มีมติให้ชะลอโครงการทางด่วน N2 ออกไปก่อนเพื่อศึกษาภาพรวมของโครงการหากต้องสร้างร่วมกับแนวเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม อีกทั้งการหารายได้จากกองทุนอาจมีข้อกำจัดเนื่องจากทางด่วนทั้งสองเส้นเป็นโครงการที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ (greenfield project) แตกต่างจากในต่างประเทศที่การระดมทันส่วนใหญ่จะใช้กับโครงการที่ก่อสร้างเสร็จและมีรายได้แล้ว (brownfield project) ดังนั้นจากข้อขัดแย้งดังกล่าวอาจทำให้เกิดความลำบากใจในการบริหารงานและยากต่อการตัดสินใจเพราะต้องเร่งดำเนินการให้ได้ตามแผนรัฐบาล

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าการรับสมัครผู้ว่ากทพ.นั้นมีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติได้รับคัดเลือกให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ในวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายกฤต ธนิศราพงศ์ 2. ผศ.ดร.ภักดี มะนะเวศ 3.นางวิภาภรณ์ ชัยรัตน์ 4.นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ รองผู้ว่าการฝ่ายก่อสร้างและบำรุงรักษา กทพ.

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้การแต่งตั้งตำแหน่งรักษาการประธานบอร์ดนั้นจะเป็นอำนาจและการตัดสินใจของกทพ.ในการคัดเลือกสมาชิกกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการ ทั้งนี้ภายใน 2 สัปดาห์นี้จะมีการนัดประชุมบอร์ดนัดพิเศษเพื่อทำการคัดเลือกตามแนวทาง จึงคาดว่าจะได้ตัวรักษาการประธานบอร์ดภายในเดือนนี้เพื่อเปิดประชุมบอร์ดขับเคลื่อนแผนงานภาพรวมต่อไปตามปกติ 

ทั้งนี้การดำเนินการตามแผนดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งคสช.ที่ท75/2557 ซึ่งระบุไว้ว่า หากตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจว่างลง องค์กรต้องกําหนดผู้รักษาการประธานกรรมการในคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจให้มีความชัดเจน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความต่อเนื่อง ในกรณีที่ไม่มีรองประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการในคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการในตําแหน่งประธานกรรมการ 

อย่างไรก็ตามขั้นตอนการสรรหาประธานกรรมการคนใหม่นั้นเป็นอำนาจและการตัดสินใจของฝ่ายนโยบายอย่าง รมว.คมนาคม กระทรวงคมนาคมรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการสรรหาและคัดเลือกก่อนเสนอรายชื่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบต่อไป