8 ก.ค 64 - ตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 8 ก.ค. 64 ดัชนี SET Index ปิดตลาดเช้า อยู่ที่ระดับ 1,552.25 จุด ปรับตัวลดลงหรือลบ -24.35 จุด คิดเป็นร้อยละ -1.54 % มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 60,243.98 ล้านบาท ดัชนี SET50 อยู่ที่ 934.84 จุด ลดลง -13.39 จุด คิดเป็น -1.41% มีมูลค่าซื้อขายรวม 28,789.90 ล้านบาท ดัชนี SET100 อยู่ที่ 2,132.05 จุด ลดลง -32.84 จุด คิดเป็น -1.52% มีมูลค่าซื้อขายรวม 40,487.37 ล้านบาท  ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 492.32 ลดลง -17.08 คิดเป็น -3.35% มีมูลค่าซื้อขายรวม 4,731.43 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
KBANK    ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง -4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,921.98 ล้านบาท
PTT  ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,492.81 ล้านบาท
PTTEP   ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง -4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,635.35 ล้านบาท
BDMS   ปิดที่ 24.10 บาท  เพิ่มขึ้น +0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,623.74 ล้านบาท
RCL  ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,424.60 ล้านบาท

ด้าน นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น รวมถึงข่าวการพิจารณามาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาด ทำให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลจะกระทบเศรษฐกิจของประเทศในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีเพียงกลุ่มการแพทย์กลุ่มเดียวที่รับอานิสงส์จากโควิดระบาด อีกทั้งนักลงทุนได้ทยอยปรับพอร์ตเพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่จะปรับลดการทำคิวอี ทำให้ฟันด์โฟลว์ ไหลไปสหรัฐฯ มากขึ้น

ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชีย ในช่วงเช้าวันนี้ติดลบไปกว่า 20 จุด จากความกังวลจะใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิดมากขึ้น แล้วจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่มีปัญหาอยู่ นักลงทุนจึงระมัดระวังการลงทุน ส่วนใหญ่ก็ได้ลดความเสี่ยงก่อน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 หลังมียอดผู้ติดเชื้อในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงหนุนให้กับการซื้อขายพันธบัตรและสกุลเงินดอลลาร์