'สุริยะ'วางกฎเข้มการใช้สารเคมีในโรงงานกำหนดสต็อกแค่ 1สัปดาห์และส่วนเกินต้องมีที่เก็บห่างไกลชุมชน


เพิ่มเพื่อน    

 


8 ก.ค.2564 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการการป้องกันเหตุไฟไหม้ของโรงงาน หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก 1 ในอ.บางพลี จ.สมุทรปราการว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ทบทวนมาตรการความปลอดภัยของการประกอบกิจการโรงงานใหม่ทั้งหมดว่า มีจุดใดต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน คลอบคลุมโรงงานทุกประเทศทั้ง 64,038 แห่ง   

 

โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้สารเคมีอันตรายในการประกอบกิจการ แล้วตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่มีชุมชนล้อมรอบ ให้พิจารณาการบริหารจัดเก็บสต็อคการใช้สารเคมีในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ให้จัดเก็บสต็อคปริมาณสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิต ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น  ไม่ควรจัดเก็บสต็อคมากเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง ส่วนสต็อคที่เหลือ ให้ย้ายไปจัดเก็บในพื้นที่โรงงาน ที่ห่างไกลชุมชน มีระบบป้องกันความปลอดภัย มีพื้นที่กันชน (บับเบิ้ลโซน) เอาไว้ป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุ หรือปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม 

 

นอกจากนี้ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการย้ายโรงงาน ที่ประกอบกิจการมีสารอันตรายออกนอกพื้นที่ชุมชน แม้โรงงานจะตั้งมาก่อนที่ชุมชนจะเข้ามาก็ตาม  ซึ่งอาจจะหามาตรการส่งเสริมให้โรงงานดังกล่าวย้ายออกมาจากบริเวณชุมชน เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือว่ามาตรการอื่นๆ          

 

ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดี กรอ.  กล่าวว่า ได้รับมอบนโยบายจากนายสุริยะ รมว.อุตสาหกรรม ให้พิจารณามาตรการการสต็อคสารที่เป็นวัตถุอันตราย ซึ่งขณะนี้กรอ.อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายฉบับใหม่ ภายใต้พ.ร.บ.โรงงาน กำหนดให้โรงงานที่มีการครอบครองวัตถุดิบอันตรายที่ซื้อจากในประเทศเกินกว่า 50 กิโลกรัม จะต้องรายงานปริมาณการใช้สารเคมีทุกชนิด ให้สอดคล้องกับกระบวนการผลิต การจัดเก็บ ระบบความปลอดภัยและความเสี่ยงต่อกรอ. จากเดิมกรอ.อยู่ระหว่างร่างกฎหมายฉบับนี้ไว้แล้ว คาดว่า จะเสร็จสิ้นปี  โดยระหว่างรอการร่างกฎหมายฉบับใหม่แล้วเสร็จ กรอ.จะเข้าไปตรวจเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และจะนำมาตรการความปลอดภัยของโรงงานขึ้นมาพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์อีกครั้ง 

 

“ที่ผ่านมาโรงงานหมิ้งตี้ได้ขอขยายกิจการ แต่ไม่ได้ขยายกำลังการผลิตที่ระบุไว้ 36,000 ตันต่อปี  แต่เป็นการขยายเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เนื่องจากเป็นโรงงานเก่าที่ต้องปรับปรุง ซึ่งสารเคมีที่โรงงานใช้เป็นวัตถุดิบเป็นการใช้ในประเทศ ไม่ได้มีการนำเข้าสารเคมีและส่งออก จึงไม่ได้ต้องทำใบขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกวัตถุอันตรายตามพ.ร.บ วัตถุอันตราย  และตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน ไม่ได้กำหนดให้โรงงานต้องรายงานปริมาณสารเคมีที่จัดเก็บเพื่อผลิต ทำให้เวลากรมฯ ลงตรวจสอบจะประมาณการสารเคมีจากปริมาณแทงค์ที่จัดเก็บสารเคมี ซึ่งจากตรวจสอบพบว่า แทงค์ที่บรรจุสารสไตรีน โมโนเมอร์ รับได้ 2,000 ตัน และขณะนี้เหลืออีก 1,600 ตัน กำลังเร่งดำเนินการจัดการ”นายประกอบ กล่าว 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"