7มิ.ย.61-พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ปรึกษา รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่นักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี การจัดอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลด้วยการให้กินเส้นขนมจีนกับน้ำปลา ว่า ตามที่ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ได้โยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนท่าใหม่ออกนอกพื้นที่ และทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วนั้น ตนยังได้รับขอสั่งการจาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้ลงพื้นที่ไปช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนจะลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) เพื่อตรวจสอบในกรณีของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ จากนั้นจะเริ่มสุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนต่างๆ ในสัปดาห์หน้า และเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือร่วมกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) ก็ได้รับทราบว่าทางสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ได้ส่งการไปยังศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด มอบหมายให้ศึกษานิเทศก์ ลงพื้นที่สุ่มตรวจเรื่องอาหารกลางของโรงเรียนภายในจังหวัด และในส่วนของ สพฐ.ก็ได้มีการสั่งการไปยังทุกเขตพื้นที่ให้กำชับในเรื่องนี้แล้ว

“ผมทราบมาว่าเรื่องอาหารกลางวันของโรงเรียนนี้ค่อยข้างจะมีปัญหามานาน และจากการตรวจสอบพบว่าหลังจากที่เงินค่าอาหารกลางวันที่ถูกโอนมากจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโอน เข้าระบบการเงินของโรงเรียน ปรากฏว่า ผอ.ก็ใช้อำนาจนำเงินจำนวนนั้นมาถือเองทั้งหมด  และเป็นผู้ซื้อวัตถุดิบทั้งหมดนำมาให้กับแม่ครัวมาทำอาหาร ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะการดำเนินการในเรื่องนี้จำเป็นต้องมีกรรมการทำหน้าที่ในส่วนนี้ เป็นการถ่วงดุลอำนาจไม่ให้เกิดการทุจริต "

พล.ท.โกศล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นทุจริตเพิ่มเติม คือ เรื่องที่โรงเรียนได้รับงบประมาณปรับปรุงไฟฟ้า ปี 2560 ประมาณ 380,000 บาท ซึ่งในระบบการจัดการเรื่องไฟฟ้า จะต้องมีเสาไฟฟ้าทั้งหมด 8 ต้น ปรากฏว่าโรงเรียนมีเสาไฟฟ้าเพียง 6 ต้น และยังมีเรื่องการทำถนนคอนกรีตภายในโรงเรียน ความยาว 100 เมตร ปี 2560 ผอ.คนดังกล่าวใช้งบฯ อุดหนุนรายหัวไปดำเนินการ จำนวน 100,000 บาท ปรากฏว่าใช้เงินทั้งหมด 4 รายการ ประกอบด้วย เงินอุดหนุนรายหัว เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานรายหัวเบิกเพิ่มเติม เงินรายได้สถานศึกษาจากการทอดผ้าป่า และเงินรายได้สถานศึกษาอื่นๆ ซึ่งรวมแล้ว เป็นเงินจำนวน 205,366 บาท และเมื่อคณะกรรมการสืบฯ ได้ตรวจสอบเอกสารพบว่า ไม่มีการทำระบบจัดซื้อจัดจ้างในระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเลคทรอนิกส์ (e-GP) อย่างถูกต้อง ผอ.โรงเรียนมีการจ้างผู้รับเหมามาดำเนินการส่วนตัว อีกทั้งยังมีใบเสร็จรับเงินเพียง 3 ใบเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการทุจริตแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อตนได้ลงพื้นที่แล้วจะมีการหารือกับคณะกรรมการสืบฯ และถ้าหากพบว่าการดำเนินการมีมูลชัดเจนทุกอย่างก็อาจจะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของ คสช.