7 ก.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแกนนำไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จัดรายการผ่านเฟซบุ๊คไลท์ในหัวข้อ พรุ่งนี้ชี้ชะตาชีวิตอีกครั้ง โดยระบุว่า ในวันที่ 8 ก.ค. จะเดินทางไปฟังคำสั่งการพิจารณาที่ศาลอาญาอย่างแน่นอน ได้เคยอธิบายไปหลายครั้ง โดยเฉพาะในวันที่ เดินทางไปศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ได้หยุดหน้าที่ทำการศาลฎีกาและประกาศขอทานเศษเสี้ยวความยุติธรรม เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับคนไทยคนไหนในแผ่นดินนี้ มีผู้ใหญ่คนหนึ่งสอบถามว่า ได้ยินในหลวงตรัส เรื่องการอำนวยความยุติธรรมหรือไม่ ในขณะที่ถูกจองจำ ซึ่งก็บอกว่า ผมได้ยินและกับคนไทยหลายคน ก็ไม่ได้รับความยุติธรรม ก็หวังว่าความยุติธรรมจะบังเกิด
นายจตุพร กล่าวว่า ความเป็นจริงคดีหมิ่นประมาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ ศาลได้พิพากษาเป็นที่ยุติแล้วและตนน้อมรับคำตัดสินของศาลทุกประการ โดยไม่มีความคับแค้นใดๆ ต้องขออธิบายกับผู้รักความยุติธรรมว่า เรื่องนี้ไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรม เพราะถูกโจทก์ฟ้องและศาลมีคำพิพากษาจำคุกรวม 2 คดี ซึ่งคดีแรก อยู่ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ ซึ่งต่อมาอัยการและดีเอสไอ มีความเห็นไม่สั่งฟ้อง และศาลชั้นต้นรวมทั้งศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยกฟ้อง ส่วนคดีที่ 2 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี และสั่งให้นับโทษต่อจากคดีแรก
“เนื่องจากคดีแรกไม่มีโทษเพราะศาลสั่งยกฟ้อง และถ้าดูจากคำสั่งศาลรวมทั้งฎีกาที่ผ่านมา ในการนับโทษต่อคดีที่มีอยู่ข้างหน้าต้องมีโทษถึงจะนับต่อได้ ดังนั้นการนับโทษต่อในคดีที่ 2 จึงไม่สามารกระทำได้ ต่อมาศาลฎีกาในคดีแรกกลับคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 1 ปีและไม่รอลงอาญา ส่วนในคดีที่ 2 ศาลฎีกาพิพากษาลดโทษเหลือ 12 เดือนที่เหลือให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์ ซึ่งผมก็อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อศาลอาญาว่า ไม่สามารถสั่งให้นับโทษต่อได้ และศาลฎีกา ไม่ได้สั่งให้นับโทษต่อ ศาลได้พิจารณาเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้มีการนับโทษต่อจากคดีแรก ไม่สามารถที่จะนับโทษต่อได้ จึงมีคำสั่งให้นับโทษตั้งแต่วันตัดสิน ซึ่งผมก็ถูกคุมขังครบตามคำสั่งศาล”นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนจะเป็นคนแรกของประเทศไทยที่ถูกนับโทษใหม่ ทั้งที่รับโทษครบและถูกปล่อยตัวแล้ว ในซีกของฝ่ายอำนาจรัฐ บางคนได้พูดในที่ต่างๆว่า จะปิดเกมตนในวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งก็พร้อมจะเดินไปให้คุมขัง แต่ไม่อาจยอมรับกับความอยุติธรรมนี้ ได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนในฐานะประชาชน ทุกอย่างได้นำเรียนต่อประธานศาลฎีกาได้ถวายฎีกาต่อพระเจ้าแผ่นดินเพื่อขอความเป็นธรรม ที่เหลือเป็นเรื่องชะตากรรม
“ผมพร้อมจะถูกสังเวย ถ้าอิสรภาพของผมได้ชำระให้ประเทศนี้มีความเป็นธรรมสูงขึ้น ให้ผู้มีความรักต่อความยุติธรรมได้ตื่นตัวต่อความอยุติธรรม ในวันพรุ่งนี้ถ้าอยากจะขังผมก็ขัง แต่ผมเชื่อว่าฟ้ามีตา ความยุติธรรมจะต้องบังเกิดในยามที่บ้านเมืองมีความยากลำบาก” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการเกิดปรากฎการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดในวันนี้ ซึ่งได้เห็นอยู่เหนือองค์หลวงปู่ทวด ที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานสร้าง ที่สถานีโทรทัศน์พีซ ทีวี เพื่อเป็นพื้นที่ในการทำกิจกรรม ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีถือเป็นความงดงาม ยืนยันว่าคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะยืนหยัดในการทำหน้าที่ตามเจตนารมณ์ร่วมมือกลับทุกกลุ่ม ไม่ว่าตนจะอยู่หรือไม่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |