บันทึกหน้า 4


เพิ่มเพื่อน    

 

     ดูเหมือนสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศยังคงสร้างสถิติใหม่รายวันอย่างต่อเนื่อง โดยเว็บไซต์ https://www.worldometers.info/coronavirus/ ซึ่งรายงานตัวเลขแบบเรียลไทม์เผยว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 185,426,138 คน และเสียชีวิตแล้ว 4,010,233 คน เรียกว่าทำสถิติใหม่ทั้งทะลุ 185 ล้านราย และเสียชีวิตเกิน 4 ล้านรายไปแล้ว...๐

หันมาส่องสถานะใน ประเทศไทยกันบ้าง ล่าสุดก็มีผู้ติดเชื้ออีก 6,519 ราย ทำนิวไฮกันอีกรอบ ทำให้ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 301,172 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 54 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,387 รายแล้ว ด้วยระดับการติดเชื้อ 2 วันหมื่นมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี่เอง ที่ทำให้ “ประเทศไทย” ไต่อันดับมาอยู่ที่ 64 ของโลก จาก 220 ประเทศและดินแดนที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ...

งานนี้จึงไม่แปลกที่วันพุธที่ผ่านมา “พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษก ศบค. ซึ่งแถลงตัวเลขสถานการณ์โควิดประจำวันแทบจะไม่เอ่ยอ้างถึงระดับประเทศไทยในการจัดอันดับโลกแล้ว เพราะจากที่เคยอยู่ในประเทศแถบสามหลักคือหลักร้อยขึ้นไป แต่ ณ ห้วงปัจจุบันตัวเลขสองหลัก แล้วนับวันก็พุ่งยิ่งกว่าพลุเสียอีก...๐

  “หมอเบิร์ท” ยังได้แถลงไขถึง 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เป็นจังหวัดที่ถูก “เซมิล็อกดาวน์” นั่นแล แต่ ที่น่าสนใจ “คลัสเตอร์” ใหม่ๆ นั้นจากเดิมที่มีแค่หลักหน่วยและหลักสิบใน กทม. ปัจจุบันต้องเฝ้าระวังแล้ว 118 แห่ง ในขณะที่ภาพรวมของประเทศ “หมอเบิร์ท” ยังบอกว่า สะท้อนให้เห็นภาพการเดินทางข้ามพื้นที่จากพื้นที่สีแดงกลับต่างจังหวัด!!!...๐ นั่นก็เท่ากับหมายความว่ามาตรการเซมิล็อกดาวน์ล้มเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่ไม่ยอมล็อกดาวน์ จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดกันไปทั่วประเทศนั่นเอง ซ้ำร้ายการระบาดรอบ 4 หรือจะ 3 ที่แก้ไขไม่ได้ก็ตามที จะเรียกว่า “ลางร้าย” ก็ไม่เกินไปหนัก เพราะจะเป็นการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาหรืออินเดียที่จะรุนแรงและรวดเร็วเสียด้วย...๐

งานนี้จะ โทษใครไม่ได้นอกจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ใช้ความเด็ดขาด ในการแก้ไขปัญหาเหมือนชายชาติทหาร มัวแต่ยักแย่ยักยัน หรือจะเรียกว่า “จับปลาสองมือ” ทั้งเรื่องเชื้อโรคและเศรษฐกิจก็ได้ เลยทำให้ประเทศไทยหัวทิ่มหัวตำไปด้วย โดย “พญ.อภิสมัย” ยังยกเคสอังกฤษมาเปรียบเทียบให้ เห็นภาพในอนาคตอันใกล้อีกว่า ใน 1-2 สัปดาห์หน้าเราอาจเห็นผู้ติดเชื้อในระดับหมื่นเป็นครั้งแรก...๐

ขนาดเป็นแบบนี้จนชาวบ้านชาวช่อง หรือแม้แต่สาวกลุงตู่ยังหันหลังกลับ 360 องศามาด่า แต่ดูเหมือน “รัฐราชการ” ยังคงไม่ยี่หระ เพราะ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. บอกว่ายังขอดูสถานการณ์ให้ครบ 15 วันก่อน ว่าจะมีการล็อกดาวน์หรือไม่อย่างไร พิโธ่! นี่ยุค 5 จี รัฐบาลดิจิทัลที่คุยโขมงหนักหนา ทำไมต้องตีกรอบเวลาเป๊ะๆ ซะขนาดนั้น หรือจะรอให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไปถึงระดับหมื่นกันก่อนถึงจะยอม “เจ็บแล้วจบ” กันล่ะพ่อคุณ...๐

แล้วก็มาถึงบางอ้อ เมื่อ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” ให้เหตุผลว่าทำไมไม่ล็อกดาวน์เหมือนช่วงสงกรานต์เมษายน 2563 โดยระบุว่าต้องใช้เงิน งบประมาณในการเยียวยาสูงถึง 3 แสนล้านบาทต่อเดือนนั่นเอง จึงเป็น “ชนักปักหลัง” ที่ทำให้ ศบค.ยังไม่กล้าใช้ยาแรง ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนในหลายอย่าง หนึ่งในนั่นคือฐานะทางการคลังและการเงินของไทยอยู่ในสภาพตึงตัว และ อาจถึงขึ้น “ถังแตก” แล้ว จึงทำให้ไม่กล้าใช้ยาแรง ประการต่อมายิ่งเป็นการประจานผลงานของรัฐบาลนั่นเอง เพราะหาก “เจ็บแล้วจบ” เมื่อ 1-2 เดือนที่แล้วก็อาจไม่ต้องใช้งบประมาณถึงขนาดนั้นก็เป็นได้...๐

อย่าลืมว่า “นพ.อุดม คชินทร” ที่ปรึกษา ศบค.ที่ออกมาแถลงข้อเท็จจริงของสายพันธุ์เดลตาเมื่อวันอังคารนั้น ไม่ได้พูดถึงเรื่องการติดเร็วของสายพันธุ์ดังกล่าวอย่างเดียว ยังมี “นัย” ที่น่าปริวิตกซ่อนอยู่ด้วย โดยเฉพาะเรื่อง บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงาน “ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอต” ณ ปัจจุบัน จนต้องนำบุคลากรสายอื่นมาช่วยงานแล้ว และหากในอนาคตมีตัวเลขผู้ติดเชื้อขึ้นถึงระดับหมื่น ก็เริ่ม นับถอยหลังความเสื่อมสลายของสาธารณสุขไทย ได้เลย ซึ่งหากตอนนั้นค่อยมาตาสว่างล็อกดาวน์ก็คงเอาไม่อยู่แล้ว...๐

ขำไม่ออกจริงๆ เมื่อ “อดีตนายกฯ แคตวอล์ก” อย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ออกมาเคลื่อนไหวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แนะนำการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง โดยโยงทั้งโควิด-19 เหตุการณ์บึ้มโรงานหมิงตี้ และการฆ่าตัวตายมาเป็นเรื่องเดียวกัน แหม! จำได้ไม่ว่าเมื่อช่วง 1-2 สัปดาห์ยังฉีกทุเรียนกินกับพี่โทนี่อยู่เลย ทั้งที่ตอนนั้น มี “สาวไทย” ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องร้องไห้เป็นเผาเต่า ขอให้รัฐบาลไทยและคนไทยช่วยเหลือจากการถูกหลอกมาทำงานที่ “ยูเออี” อ้าวในเมื่อ “คุณโทนี่และคุณปู” ก็อาศัยอยู่ในยูเออี ทำไมไม่ช่วยเหลือเล่า หรือเพราะสละสัญชาติไปแล้วเลยไม่เหลือบแล เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ชาวบ้านเขาก็เลยบอกว่า อย่า ส.ใส่เกือกมายุ่งจะดีกว่านะจ๊ะ...๐. 

...ท.ศักดิ์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"