เที่ยวบินของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์จากรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปบาฮามาสต้องออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด 1 วัน หลังจากผู้โดยสารวัยรุ่นประมาณ 30 คนที่ไปเที่ยวฉลองจบ ม.ปลาย ปฏิเสธจะสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่บนเครื่องบิน

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 7 ก.ค. โดยอ้างรายงานของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นช่อง WSOC-TV ว่าตามกำหนดนั้น เที่ยวบิน 893 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์จะต้องบินขึ้นจากสนามบินชาร์ลอตต์ดักลาสในช่วงสายวันจันทร์ แต่เที่ยวบินนี้ออกเดินทางจริงในเช้าวันอังคารที่ผ่านมา โดยกลุ่มวัยรุ่นที่สร้างปัญหาทำให้เที่ยวบินล่าช้าข้ามวันยังคงได้เดินทางไปด้วย

    เดิมเที่ยวบินนี้มีปัญหาขัดข้องของตัวอากาศยานทำให้ต้องล่าช้าหลายชั่วโมง แต่เมื่อเครื่องบินพร้อมจะทำการบิน ก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้นระหว่างพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกับกลุ่มวัยรุ่นที่ปฏิเสธปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลกลาง ที่กำหนดว่าผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยบนเที่ยวบิน

    มาลิก แบงก์ ซึ่งอยู่บนเที่ยวบินนี้ด้วย เปิดเผยกับ WSOC-TV ว่าเป็นเรื่องแย่ เริ่มแรกพวกนั้นร้องตะโกน แล้วก็ด่าทอสาปแช่ง พวกนั้นน่ารังเกียจมาก

    ผู้โดยสารวัยรุ่นกลุ่มนี้มีกันประมาณ 30 คน เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากเมืองบอสตันที่กำลังไปฉลองจบการศึกษา รายงานกล่าวว่า หลังจากต้องนอนที่สนามบิน 1 คืน สุดท้ายเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ยอมสวมหน้ากากอนามัย โดยตำรวจไม่ได้จับกุมใคร

    ผู้ประกอบการบินของสหรัฐกล่าวว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนกิริยาที่ไร้ความสุภาพมากขึ้นซึ่งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางบนเครื่องบินโดยสาร เดือนที่แล้วสหภาพและสหพันธ์อุตสาหกรรมการบินเคยเรียกร้องกระทรวงยุติธรรมให้ใช้วิธีการที่เป็นระบบมากขึ้นในการดำเนินคดีกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบิน

    ข่าวสารจากองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐ (เอฟเอเอ) เผยแพร่เมื่อวันอังคารระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นมา มีรายงานเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสาร 3,271 เหตุการณ์ ซึ่งรวมถึง 2,475 เหตุการณ์ที่ผู้โดยสารปฏิเสธสวมหน้ากากอนามัย.