7 ก.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ป่วยรอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดังนั้น ภาครัฐจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม (ชั่วคราว) เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประกอบกับพื้นที่ที่ตั้งของโรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพค เมืองทองธานี จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ใน ส.ค. 2564
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อขอใช้พื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม มาเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย โดยกระทรวงคมนาคม จึงเตรียมจะปรับใช้พื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พื้นที่ 216,000 ตารางเมตร เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อทดแทนโรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพค เมืองทองธานี
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีเเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจอาคาร SAT-1 ในวันนี้ (6 ก.ค. 2564) นั้น พบว่า พื้นที่อาคาร SAT-1 เหมาะสมที่จะทำโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นพื้นที่เตียงผู้ป่วย รองรับได้อย่างน้อย 5,000 เตียงในระยะแรก ขณะเดียวกัน จะใช้พื้นที่ชั้น 2 เป็นสถานที่ทำการของแพทย์ และห้อง ICU ส่วนชั้น 3 และ 4 จะเป็นพื้นที่สำหรับผู้ป่วยสีเขียว และสีเหลือง อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะเริ่มเปิดให้บริการได้ประมาณช่วง ส.ค. 2564
สำหรับอาคาร SAT-1 เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าโรงพยาบาลบุษราคัมประมาณ 3 เท่า ลักษณะเป็นอาคาร 4 ชั้น โดยในปัจจุบันมีการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ มีระบบปรับอากาศ ไฟฟ้า น้ำประปาพร้อมแล้ว มีความยาวพื้นที่ประมาณ 1,000 เมตร ทั้งนี้ หากมีการปรับเป็นโรงพยาบาล จะต้องมีการปรับพื้นที่ และเพิ่มเติมห้องอาบน้ำ ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ทั้งนี้ การเดินทางมายัง SAT-1 นั้น จะใช้เวลาเดินทางจากบางนาประมาณ 20 นาที โดยปัจจุบัน มีถนนชั่วคราวเข้าพื้นที่มายังอาคาร SAT-1 แล้ว แต่หากจะใช้เป็นเส้นทางหลัก จะต้องมีการปรับปรุงถนนเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับอาคาร SAT1หรือแซทเทิลไลท์ 1 เป็นของบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ในโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ(เฟส) ที่ 2 วงเงินกว่า 62,000ล้านบาท ล่าสุดวางเป้าหมายเปิดบริการเดือนเม.ย.65มีระบบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ(APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับเชื่อมต่อกับอาคารหลังเดิมภายใน2นาที
สำหรับอาคาร SAT1 มี28 หลุมจอด รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ A380ได้พร้อมกัน 8 ลำ และอื่นๆ อีก 20 ลำในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของ ทสภ. จากก่อนโควิดมีผู้โดยสาร45 ล้านคน เป็น 60ล้านคนต่อปี และรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจาก 60-63เที่ยวบินต่อชั่วโมง(ชม.) เป็น 68 เที่ยวบินต่อชม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |