6 ก.ค 64 - ตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ค. 64 ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,591.43 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือบวก +12.15 จุด คิดเป็นร้อยละ +0.77 % มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 69,485.37 ล้านบาท

ดัชนี SET50 อยู่ที่ 956.78 จุด เพิ่มขึ้น +6.45 จุด คิดเป็น +0.68% มีมูลค่าซื้อขายรวม 31,044.32 ล้านบาท

ดัชนี SET100 อยู่ที่ 2,182.76 จุด เพิ่มขึ้น +14.18 จุด คิดเป็น +0.65% มีมูลค่าซื้อขายรวม 42,425.86 ล้านบาท
ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 516.09 เพิ่มขึ้น +9.54 คิดเป็น +1.88% มีมูลค่าซื้อขายรวม 10,697.99 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
CBG    ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,078.12 ล้านบาท
COTTO  ปิดที่ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น +0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,940.12 ล้านบาท
KBANK   ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,857.36 ล้านบาท
PTTEP   ปิดที่ 121.50 บาท  เพิ่มขึ้น +2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,853.02 ล้านบาท
BANPU  ปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,572.64 ล้านบาท

ด้าน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงผันผวนอิงทางบวกอยู่ เนื่องจากช่วงเช้าได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งกลุ่มพลังงานได้อานิสงค์นี้ และในช่วงบ่ายได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลังภาครัฐให้ความช่วยเหลือ และมีการคลายล็อกดาวน์บางส่วนสำหรับงานก่อสร้าง อีกทั้งหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงค์มาจากการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งส่งผลให้ก็ปรับตัวขึ้นได้ดี

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.)  ที่มีการจัดหาซิโนแวค-ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ที่ใช้เป็นวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือกมากขึ้น ทำให้ช่วยประคองราคาตลาดฯได้ดี เพียงแต่เมื่อดัชนีฯปรับขึ้นมาใกล้ระดับ 1,600 จุด ก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างทาง