'บิ๊กตู่' นำทีมของบรายจ่ายปี 62 ต่อสภาวงเงิน 3 ล้านล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

7 มิ.ย. 61 - ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 จำนวนไม่เกิน 3 ล้านล้านบาท ในวาระที่หนึ่ง โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหลักการและเหตุผลของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 62 ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)นำเสนอ เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.9 - 4.9  โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชนที่มีการขยายตัวสูงขึ้น รวมทั้งความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐที่เข้าสู่ขั้นตอนของการก่อสร้าง ในขณะที่การส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวยังมีการขยายตัวดีตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2562  ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง ร้อยละ 0.9 – 1.9 ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณร้อยละ 6.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม.ได้นำเสนอในวงเงินงบประมาณ เป็นการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล โดยกำหนดรายได้สุทธิ จำนวน 2,550,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 450,000 ล้านบาท ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 31 พ.ค.2 561 มีจำนวนทั้งสิ้น 317,166 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารรายรับและรายจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทยในปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์ดี มูลค่า เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 30 เม.ย. 2561 มีจำนวน 215,152.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 3.6 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

นายกฯ กล่าวต่อว่า งบประมาณรายจ่าย ปี 62 เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี 61 ทำให้หลายคนคิดว่ารัฐบาลใช้เงินเปลือง ตนขอให้ทุกคนช่วยกลับไปดูว่าเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในอดีตที่คั่งค้างอยู่  และนำไปพัฒนาสิ่งต่างๆ รวมทั้งดูแลผู้มีรายได้น้อย และเป็นการลงทุนสู่อนาคต ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการทุจริตนั้น คิดว่าถ้าพูดแบบนี้จะทำอะไรไม่ได้ แต่ต้องมองว่าใช้งบประมาณครบหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ อันไหนควรเพิ่มหรือลด แต่ถ้าบอกว่ามีเงินเยอะแล้วจะมีการทุจริต ก็จะทำอะไรไม่ได้ การทุจริตเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะต้องใช้กลไกการปราบทุจริต โดยเป็นไปตามกฎหมายทุกกระบวนการ รัฐบาลนี้ตรวจสอบทุกวัน มีการชี้แจง สอบถาม เมื่อตรวจสอบไม่พบทุจริตมันก็ต้องทำได้ อย่าให้ใครนำไปใช้ในการบิดเบือน การทุจริตไม่ได้อยู่ที่ระบบหรือกฎหมาย อยู่ที่คนทั้งสิ้น ต้องคิดให้ถูก มีเหตุมีผล ใช้สติปัญญา ไม่ใช้ความรู้สึก ไม่เช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายซึ่งมันจะแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำอะไรไม่ได้ นั้นคืออันตรายของการใช้กฎหมาย ดังนั้นกฎหมายต้องไม่สร้างภาระ และกฎหมายใหม่ต้องอำนวยความสะดวกเพื่อประชาชน ลดความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการใช้ดิจิตอลในประเทศ ว่า เดือนส.ค.นี้ จะเริ่มไม่ใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กว่าจะเกิดขึ้น ใช้เวลา 40 เดือน กว่าจะนำเสนอเข้าครม.ได้ ตรวจทุกวันสิ่งใดไม่เหมาะสมก็ให้กลับไปทำใหม่ ขอให้ไว้ใจ ไม่ใช่ให้ส่งเดชไปเรื่อย ดังนั้น วันข้างหน้าจะต้องเป็นแบบนี้ นายกรัฐมนตรีต้องเป็นแบบนี้ ต้องซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ต้องดูให้ทั่วถึง ซึ่งตนได้กำชับให้ทุกกระทรวงทำให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ แก้ไขปัญหาในอดีตและปัจจุบัน ทั้งต้องลงทุนในอนาคต วันนี้อาจไม่เกิดผลและมีคนถามว่าได้ผลหรือไม่ ซึ่งอยากถามกลับว่าที่ผ่านมาเคยลงทุนแบบที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ ถ้าเคยลงทุนแล้ววันนี้ไม่ต้องลงทุนมากเท่าปัจจุบัน เรากำลังทำวันนี้เพื่อลูกหลาน ไม่ใช่เพื่อพวกเรา

“ที่ผ่านมาจะเห็นว่าไม่มีความทั่วถึง เช่น ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ไม่สามารถแสดงความชัดเจนเหมือนที่รัฐบาลนี้กำลังแสดง เป็นรัฐบาลและครม.ของคนทั่วประเทศ ไม่ใช่ให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง รัฐบาลในวันข้างหน้าที่คาดหวังให้มันได้แบบนี้แล้วกัน ไม่ใช่ว่าตนทำดีที่สุด ดีเลิศ เราควรจะนำเวลานี้จนถึงก่อนเลือกตั้งมาคุยกัน  พรรคการเมืองจะต้องเสนอแนวทางการทำงานมากกว่าบิดเบือน ต่อว่ากันไปมา ซึ่งจะทำให้กลับไปที่เดิม สร้างความเกลียดชัง หาสาระไม่ได้ ถามไว้ด้วย การปฏิรูปเป็นเรื่องสำคัญ แต่ปฏิรูประเทศไทยมีปัญหาในงบและโครงสร้าง ซึ่งต้องใช้เวลา เหมือนต่างประเทศ วันนี้จะต้องแก้ความขัดแย้งภายในประเทศให้ได้ก่อนการเลือกตั้ง และจะเป็นไปตามโรดแมป ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง ขอให้ช่วยในการปฏิรูปด้วย ต่างประเทศปฏิรูปสำเร็จชื่นชมนักหนา วันนี้เขายังเฆี่ยนคนอยู่เลย ผมไม่เอ่ยนาม ประชาชนเขากลัวด้วย กลัวกฎหมาย กลัวถูกเฆี่ยน แต่ประเทศไทยไม่กลัว เพราะประชาธิปไตยไง กลายเป็นถูกหรือเปล่าแบบนี้”  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"