ตร.นครบาลแจ้งดำเนินคดี 70 ราย ม็อบไล่นายกฯ 2-4 ก.ค. ขณะที่ม็อบ 3 นิ้วส่อผิด พ.ร.บ.สุรา ลักลอบจำหน่ายในการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต จ่อเอาผิดรถยนต์ร่วม Car Mob ด้วย
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 5 กรกฎาคม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของหลายกลุ่มวันที่ 2-4 ก.ค.ที่ผ่านมา 
    โดย พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า การชุมนุมช่วงที่ผ่านมามีการชุมนุมสำคัญดังนี้ วันศุกร์ที่ 2 ก.ค. มีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและกลุ่มราษฎร นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เริ่มจากแยกอุรุพงษ์เคลื่อนมายังแยกพาณิชยการเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ สำหรับวันที่ 3 ก.ค. มี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดย 2 กลุ่มแรกชุมนุมที่แยกนางเลิ้ง เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ส่วนกลุ่มที่ 3 เริ่มที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าไปยังแยกราชประสงค์และกลับมาที่แยกนางเลิ้ง สำหรับวันที่ 4 ก.ค. มี 3 กลุ่มเล็กๆ คือ กลุ่มโมกข์หลวงริมนน้ำ กลุ่มศิลปินราษฎร และกลุ่มนายวิรัษ แซ่คู ทั้ง 3 กลุ่มมวลชนมีจำนวนไม่มาก
    จากการกระทำของทุกกลุ่มทั้งวันที่ 2 ก.ค.-4 ก.ค. เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และ พ.ร.บ.จราจร ส่วนที่มีกลุ่มบุคคลที่ลักลอบจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการชุมนุมเปิดท้ายขายของวันที่ 2 ก.ค. เป็นความผิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกส่วนหนึ่ง ในการกระทำผิดของผู้ชุมนุม 2 ก.ค.-4 ก.ค. เป็นการทำผิดหลายท้องที่คือ สน.นางเลิ้ง สน.ปทุมวัน สน.สำราญราษฎร์ และ สน.พญาไท ในส่วนนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมีกลุ่มบุคคลที่ต้องถูกดำเนินคดีแล้วทั้งสิ้น 70 ราย และจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ รถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอีกจำนวนหนึ่งที่พนักงานสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ 
    นอกจากนี้ พนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดในเขตพื้นที่ที่กลุ่มคาร์ม็อบเดินทางผ่านก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ กีดขวางการจราจรหรือว่ามีลักษณะที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นหรือไม่ ถ้ามีลักษณะอันตรายจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมด การบีบแตรก็เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา 
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่กระทำผิดได้ 70 คน แต่ไม่ได้หมายความว่ามีเพียง 70 ราย ที่ต้องถูกดำเนินคดี เป็นเพียงการเริ่มต้น การดำเนินคดีต้องเริ่มจากการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล การรวบรวมพยานหลักฐานตามกรอบของกฎหมาย อย่างที่เรียนว่าถ้ามีการออกมาชุมนุมถ้ามีการฝ่าฝืนกฎหมายบทใดจะมีการดำเนินคดี ถ้าเดินหน้าไปแล้วถอยหลังไม่ได้.