สลดโรงงานระเบิด ตาย1บาดเจ็บ26


เพิ่มเพื่อน    


เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ที่กำลังการผลิต 36,000 ล้านตันต่อปี ย่านบางพลี และระเบิดส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นชาวบ้าน 15 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย ต้องอพยพคนออกจากพื้นที่ "บิ๊กตู่" สั่งการเร่งสืบหาสาเหตุการระเบิด พร้อมตั้งศูนย์รองรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมีโดยรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตร
    เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ร.ต.อ.สัณหวัช แก้วดวงศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุถังเคมีระเบิดภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมดับเพลิงจาก อบต.บางพลีใหญ่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 30 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปที่เกิดเหตุ
    ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับเม็ดโฟมและพลาสติกขนาดใหญ่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารโรงงานอย่างรุนแรง เปลวเพลิงแดงฉานและควันไฟดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ แรงอัดทำให้บ้านเรือนและโรงงานที่อยู่โดยรอบข้างรัศมี 500 เมตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เศษซากวัสดุโรงงานปลิวทั่วบริเวณ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายสิบราย ส่วนมากบาดเจ็บจากแรงอัดและกระจกบ้านเรือนแตกตกใส่ ขณะที่มีคนงานบางส่วนถูกแผ่นปูนอาคารถล่มลงมาทับ เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ
    จากการสอบถามชาวบ้านได้เล่าว่า ตนอยู่ด้านนอกโรงงานมีพนักงานมาเรียกว่ามันรั่ว ตนจึงได้เดินเข้าไปดู ขณะเดินไปถึงป้อมยามก็ระเบิดขึ้น ทราบว่าจุดที่ระเบิดเป็นถังเคมีขนาด 2,000 ตัน ส่วนถัดไปเป็นสารเคมีไวไฟขนาดใหญ่ที่ไฟกำลังไหม้อยู่ ส่วนความเสียหายและสาเหตุขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ 
    ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในขณะที่เพลิงได้ลุกลามขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพประชาชนในซอยกิ่งแก้ว 21 ที่อยู่ใกล้กับโรงงานออกจากพื้นที่เกิดเหตุอย่างน้อย 5 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้มีสารเคมีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และพลตำรวจตรีชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้รุดไปอำนวยการที่จุดเกิดเหตุพร้อมได้มีการประสานเฮลิคอปเตอร์บรรทุกสารเคมีมาช่วยดับเพลิง
    เวลา 13.30 น. ไฟได้เกิดปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากสารเคมีเกิดการรั่วไหลออกมา ทำให้ไฟลุกโหมขึ้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงถูกไฟคลอกทั้งตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ถูกลำเลียงส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม อบต.บางพลีใหญ่ จำนวน 2 ราย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามา สมุทรปราการ 1 ราย
    นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งหมดอพยพออกจากพื้นที่เกิดเหตุ และเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงที่เดินทางมาจากจังหวัดลพบุรี จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ทำการปล่อยน้ำยาโฟมดับไฟ ก่อนที่จะบินไปโหลดน้ำยาโฟมดับเพลิงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนยอดรวมผู้บาดเจ็บอย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่เกิดเหตุช่วงแรกจนถึงเช้าเป็นชาวบ้าน 15 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย
    ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมสถานการณ์และสืบหาสาเหตุการระเบิดที่โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนและผู้ได้รับความเสียหาย
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์อพยพรองรับประชาชน ณ โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ และวัดสลุด อ.บางพลีใหญ่ โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมีโดยรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตร เร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องการขอความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูล สามารถโทร.มายังสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วย
    ส่วนทาง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ที่กำลังการผลิต 36,000 ล้านตันต่อปี ว่าได้สั่งการให้นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ด่วน เพื่อไปติดตามสถานการณ์โรงงานไฟไหม้ใกล้ชิด และดำเนินมาตรการเร่งด่วนในขณะนี้ คือการดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ ที่ กรอ. กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย
    “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก โดยได้สั่งการตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุให้ผมลงพื้นที่ตรวจสอบว่าโรงงานประเภทดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั่วประเทศมีโรงงานประกอบกิจการผลิตเม็ดโฟม ESP จำนวน 2 แห่ง คือ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และโรงงานไออาร์พีซี ที่จังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 และได้ตั้งก่อนที่จะมีชุมชนเข้าไปตั้งในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งการจะตั้งโรงงานประเภทนี้จะมีการทำอีไอเอและอีเอชไอเออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้มีการตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มูลนิธิร่วมกตัญญูในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเบื้องต้นแล้ว” นายสุริยะกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"