เมื่อคืนวันอาทิตย์ ทางการเมืองไมอามี-เดดระเบิดทำลายอาคารที่พักอาศัยสูง 12 ชั้นส่วนที่เหลืออยู่หลังจากส่วนหนึ่งพังถล่มเมื่อ 11 วันก่อน หวั่นพายุเอลซาที่กำลังเคลื่อนตัวมาทางรัฐฟลอริดาจะทำให้อาคารส่วนนี้พังถล่มซ้ำ เป็นอันตรายต่อปฏิบัติการค้นหากู้ภัย

อาคารส่วนที่เหลืออยู่ของคอนโดมิเนียมแชมเพลนทาวเวอร์สเซาท์ถูกระเบิดทำลายลงเมื่อคืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 (Photo by Joe Raedle/Getty Images)

    อาคารแชมเพลนทาวเวอร์สเซาท์ในเมืองเซิร์ฟไซด์ใกล้ไมอามีบีช พังถล่มลงเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น การค้นหาและกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตจากซากอาคารคอนโดมิเนียมหลังนี้แล้ว 24 คน แต่ยังมีคนสูญหายอีก 121 คน ก่อนที่ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจะถูกระงับในวันเสาร์ เพื่อเปิดทางสำหรับการทำลายอาคารส่วนที่เหลือ

    แดเนียลลา เลวีน คาวา นายกเทศมนตรีหญิงของเมืองไมอามี-เดด กล่าวว่า ปฏิบัติการทำลายตึกมีความสำคัญต่อการขยายขอบเขตของการค้นหา โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้อาคารนี้มากที่สุด

    ภายในอาคารส่วนที่ตั้งอยู่นั้น คนงานเจาะเสาหลายต้นของอาคารเพื่อฝังระเบิดขนาดเล็กไว้ ทางการไมอามี-เดดไม่ได้มีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอพยพ แต่แนะนำก่อนหน้าการระเบิดทำลายตึกว่า ขอให้ประชาชนอยู่ภายในอาคาร ปิดประตูหน้าต่าง และงดใช้เครื่องปรับอากาศ อย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังจากตึกถล่มแล้ว

    เลวีน คาวา กล่าวด้วยว่า ทีมค้นหาได้ใช้โดรนติดกล้องตรวจจับความร้อนสำรวจภายในอาคารนี้ก่อนจุดชนวนระเบิด เพื่อค้นหาว่ามีสัตว์เลี้ยงตกค้างอยู่หรือไม่ "ทันทีที่อาคารพังลงและปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเริ่มความพยายามค้นหาอีกครั้งทันที" เธอกล่าวถึงการค้นหาผู้สูญหายใต้กองซากปรักหักพังสูงเป็นภูเขา

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นอาคารสูง 12 ชั้น ส่วนที่ยังเหลืออยู่พังถล่มลงเมื่อเวลา 22.30 น.เศษของวันอาทิตย์ ตรงกับ 09.30 น.วันจันทร์ของไทย ส่งฝุ่นควันฟุ้งกระจาย

    รายงานรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม กล่าวว่า ถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น พายุเขตร้อนเอลซาอยู่นอกชายฝั่งคิวบา ด้วยความเร็วลม 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง หลังจากพายุลูกเคลื่อนตัวข้ามคิวบาเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ พยากรณ์พายุคาดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนถึงรัฐฟลอริดาในวันอังคารหรือวันพุธนี้