'ดร.กนก'กระทุ้งศบค.เตรียม4เรื่องรับมือระบาดสูงสุดเดือนส.ค.


เพิ่มเพื่อน    

5 ก.ค. 64 - ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ตัวเลขจำนวนการติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละเดือนตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานว่า เมื่อนำมาเรียงกันจะให้ความหมายสำคัญ  ดังนี้ วันที่ 31 มกราคม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 829 คน, 28 กุมภาพันธ์ = 70 คน, 31 มีนาคม = 42 คน, 30 เมษายน = 1,583 คน, 31 พฤษภาคม = 5,485 คน, และ 30 มิถุนายน = 4,786 คน 

สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง      คือ 1) ช่วงมกราคม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 829 คน จนถึง 31 มีนาคม คือ สถานการณ์สมุทรสงครามที่ทำให้ตัวเลขสูง 2) ช่วงเมษายน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 1,583 คน คือ ช่วงประชาชนกลับบ้านต่างจังหวัดในเทศกาลสงกรานต์ และ 3) ช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 5,485/4,786 คน   คือ ช่วงเกิดคลัสเตอร์เรือนจำ, ตลาดสด, ชุมชน, แคมป์คนงานก่อสร้าง และแหล่งชุมชนต่าง ๆ 

แสดงให้เห็นแบบแผนของปัญหาการแพร่ระบาด 2 รูปแบบ คือ แบบแผนที่ 1 เป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ชิดกันและไม่สามารถควบคุมได้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงเป็นช่วงๆ เป็นผลจากการระดมมาตรการแก้ไขที่ใส่ลงไปในพื้นที่แพร่ระบาดเป็นสำคัญ แบบแผนที่ 2 เป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสจากการเคลื่อนที่ของคนติดเชื้อไวรัสและกระจายไปสู่บุคคลอื่น ๆ ในพื้นที่ที่เดินทางไป ซึ่งจากตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 แบบแผนนี้ ชี้ถึงปัญหาการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตามหลักทางระบาดวิทยา สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้น่าจะมีเหตุผลหลายประการประกอบกัน ประการแรก คือ ความไม่รู้ของผู้รับผิดชอบ รวมถึงการไม่รู้ข้อมูลจริงและการไม่มีความรู้     ประการที่สอง คือ การไม่สามารถบริหารสั่งการให้เกิดการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ในระดับปฏิบัติการ และประการที่สาม คือ การไม่เอาใจใส่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในระดับปฏิบัติที่จะเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด 

ศ.กร.กนก กล่าวด้วยว่า ประเด็นปัญหาที่มีการส่งเสียงเตือนออกมาแล้ว คือ การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่สามารถติดได้ง่าย กระจายตัวรวดเร็ว มีอาการรุนแรง และวัคซีนที่ฉีดคือ Sinovac  มีความสามารถในการป้องกันสายพันธุ์นี้ได้ต่ำ และตัวเลขการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาขยายตัวอย่างรวดเร็วจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม              พบว่าในกรุงเทพมหานครช่วงต้นเดือนจนถึงปลายเดือนมิถุนายน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจาก 5% เป็น 70% ของผู้ติดเชื้อไวรัสทั้งหมด แนวโน้มของจำนวนติดเชื้อเพิ่มสูงถึง 6,087 คน (2 กรกฎาคม) และจำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นเป็น 61 ราย 

ตัวเลขจำนวนคนติดเชื้อไวรัสรายใหม่และจำนวนคนเสียชีวิตรายวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งสัญญาณเตือนให้เตรียมการ 4 เรื่องสำคัญ คือ 1) การเตรียมจำนวนเครื่องช่วยหายใจ       2) การสำรองออกซิเจน  3) การเตรียมยา Favipiravia และ Tocilizumab สำหรับผู้ป่วยอาการหนักนอกเหนือจากเตียงและโรงพยาบาลสนามที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้แล้ว ถึงกระนั้นสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างรวดเร็วนี้ เตือนให้เราต้องคิดถึง 4) การวางระบบติดตามอาการของผู้ป่วย ที่ต้องอยู่ที่บ้านเพราะจำนวนเตียงในโรงพยาบาลทุกประเภทไม่เพียงพอ ระบบการติดตามอาการของผู้ป่วยที่จำเป็น เช่น เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วด้วยตนเอง, การเตรียมอุปกรณ์และออกซิเจนสำหรับใช้ที่บ้าน  จนถึงการรายงานข้อมูลอาการผู้ป่วยที่บ้านกับแพทย์ที่ศูนย์แพทย์ใกล้บ้านตลอด 24 ชั่วโมง                    

"ความพร้อม 4 เรื่องนี้มีเวลาเตรียมการประมาณ 1 เดือน เพราะคาดการณ์ว่าเดือนสิงหาคมสถานการณ์การแพร่ระบาดและจำนวนผู้ป่วยจะถึงจุดสูงอย่างไม่เคยพบมาก่อนในประเทศไทย ผมหวังว่าเสียงเตือนด้วยความห่วงใยนี้จะถึงผู้รับผิดชอบในกระทรวงสาธารณสุขและ ศบค.  และนำไปสู่การเตรียมการล่วงหน้าเพื่อบริหารจัดการจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยพบมาก่อน ในอนาคตอันใกล้นี้ "ศ.ดร.กนก ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"