“ทนายนกเขา-ตุ๊ดตู่” โดนก่อนเพื่อน ตร.เตรียมแจ้ง 2 ข้อหาชุมนุม 24, 26 มิ.ย. ส่วน 5 แกนนำคณะราษฎรระทึก หนังสือถอนประกันถึงมืออัยการ  ตำรวจเตือนอย่าเชื่อโลกออนไลน์ปลุกร้านค้า-ร้านเหล้าทำอารยะขัดขืน 
    เมื่อวันอาทิตย์ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ใฐานะโฆษก บช.น. แถลงถึงการชุมนุมของมวลชน 3 กลุ่มเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. ว่าภาพรวมการชุมนุมของมวลชนทุกกลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดี แต่พนักงานสอบสวนก็ยังคงต้องสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ถอดเทปคำปราศรัย และดูพฤติกรรมของมวลชนทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย, กลุ่มของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน และกลุ่มของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่จัดกิจกรรม แฟลชม็อบ สมบัติทัวร์ แยกขบวนจากกลุ่มไทยไม่ทน ไปชุมนุมต่อที่แยกราชประสงค์
       พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า เบื้องต้นแกนนำทุกกลุ่มเข้าข่ายความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, พ.ร.บ.ความสะอาด และ พ.ร.บ.จราจรทางบก เป็น 4 ข้อหาหลักอยู่แล้ว แต่พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าพฤติกรรมและการปราศรัยของแกนนำจะเข้าข่ายข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียก เนื่องจากต้องการแจ้งข้อหาทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นว่าเป็นเกมการเมือง โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เตรียมออกหมายเรียกนายนิติธรกับพวก และนายจตุพรกับพวก เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 และ 26 มิ.ย. คนละ 2 ข้อหา ภายในสัปดาห์หน้า
         “ส่วนกระแสข่าวว่าตำรวจยื่นเพิกถอนการประกันตัวแกนนำกลุ่มราษฎรนั้น พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. ได้พิจารณาพฤติกรรมของแกนนำที่ได้รับการประกันตัวโดยติดเงื่อนไขศาลแล้วพบว่า มีแกนนำที่ฝ่าฝืนเงื่อนไข 5 คน ซึ่งได้ยื่นคำขอเพิกถอนประกันแกนนำ โดยส่งให้พนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของพนักงานอัยการ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่ามีใครบ้าง” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
        สำหรับแกนนำกลุ่มราษฎรที่ได้รับการประกันตัว และติดเงื่อนไขศาล ประกอบด้วย 1.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 2.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 3.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ 4.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ 5.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน 6.นายอานนท์ นำภา 7.นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ 8.นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ 9.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือน้องมายด์
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อนัดหมายจัดกิจกรรมคาร์ม็อบกดแตรเพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าวันที่ 10 ก.ค. นัดจัดกิจกรรมครั้งใหญ่อีกรอบ เพราะประเทศไทยมีเชื้อโรคต้องกำจัด 2 ตัว คือโควิด-19 และ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนกรณีตำรวจเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายกับรถยนต์ที่ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อ 3 ก.ค.นั้น โฆษกตำรวจบอกว่า บนถนนมีกล้องวงจรปิด แล้ว รู้ได้อย่างไรว่าคันไหนบีบแตร ใครที่โดนออกใบสั่ง เพราะบีบแตรอย่าเพิ่งจ่ายเงิน ต้องให้ตำรวจแสดงหลักฐานก่อน รถมันเต็มถนน แล้วคันไหนบีบแตรมิทราบ
พล.ต.ต.ปิยะยังกล่าวถึงกรณีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียประกาศเชิญชวนร้านอาหารร่วมแสดงอารยะขัดขืนมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล  ว่าการที่ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้นั่งรับประทานในร้าน หรือเปิดนอกเวลาที่อนุญาต และการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน  รวมถึงการจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 20 คน จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 25 และประกาศกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 34 จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ที่มีผู้ชักชวนให้ทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดโดยผิดกฎหมายนั้น ขออย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะท่านอาจจะถูกหลอกลวงให้ซื้อวัตถุดิบหรือสินค้ามาเตรียมไว้  แล้วไม่สามารถเปิดร้านขายได้ ทำให้ขาดทุนและได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น
“ขอแจ้งเตือนผู้โพสต์ แชร์หรือส่งต่อข้อความดังกล่าว ขอให้เห็นใจพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว อย่าหลอกลวงหรือซ้ำเติมให้ใครได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้ และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชน ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน รวมทั้งการโพสต์ แชร์หรือส่งต่อทางโซเชียลหรือระบบคอมพิวเตอร์ ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ด้วย”.