พีระภัทร ศิริจันทโรภาส  ขับเคลื่อนธุรกิจบนการรับผิดชอบสังคม


เพิ่มเพื่อน    

ปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังถูกจับตามอง เพราะเป็นเทรนด์ที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลกที่จะนำไปสู่การปฏิวัติสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราที่มีปัญหาด้านการจราจรและส่งผลให้เกิด PM 2.5 ต่อเนื่องมาหลายปี  

 
และด้วยเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม จึงทำให้โอกาสในการลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น อย่างเช่น  พีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ และ co-founder ของบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งที่กระโดดเข้ามาในธุรกิจที่เป็นระบบนิเวศของ EV ด้วยการก่อตั้งธุรกิจเกี่ยวกับการชาร์จรถ EV อย่างครบวงจร 


พีระภัทร เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่ได้ไปศึกษาที่สหรัฐ และจากที่เป็นคนช่างสังเกตจึงพบว่าการขับเคลื่อนของผู้คนในต่างแดนนั้นส่วนใหญ่จะตระหนักถึงสังคมโดยรวม และให้ความร่วมมือกันอย่างดีในการแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านการจราจร ซึ่งนำไปสู่มลภาวะทางอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนโดยเท่าเทียม ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มเห็นหลายประเทศเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ขับเคลื่อนไปโดยการรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง จากจุดเริ่มต้นใกล้ตัว ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเปลี่ยนไปใช้รถ EV ถึงแม้เรื่องการเปลี่ยนไปใช้รถ EV จะยังเป็นจุดเริ่มต้น แต่ในบางประเทศ เช่น นอร์เวย์ ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงจนประสบความสำเร็จมาแล้ว และเรื่องนี้ได้จุดประกายให้พีระภัทรตั้งมั่นว่าจะต้องกลับมาทำธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันให้ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศบ้านเกิดของตนเอง


และจากการผลักดันของคนในครอบครัวที่ปลูกฝังให้เป็นคนที่รู้จักคิดวิเคราะห์หาผลลัพธ์เรื่องต่างๆ ด้วยตนเองอย่างไม่มีอคติ ทำให้หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากหลักสูตร Science, Economics and Finance จากมหาวิทยาลัย เบนท์ลีย์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังไม่ตัดสินใจทำธุรกิจในทันที เนื่องจากอยากหาประสบการณ์ด้วยตัวเองก่อน จึงได้เข้าทำงานเป็น Financial analyst ของ The Quant Group


พีระภัทร์บอกว่า บริษัทที่เปิดโอกาสให้ได้ทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสู ของบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ได้โอกาสศึกษาเทรนด์ใหม่ต่างๆ เพื่อเปิดช่องทางให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้บริษัทเดิม โดยยังคงเกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะนำความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดมาสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิต นั่นคือการร่วมเป็นผู้ก่อตั้ง ชาร์จ แมเนจเม้นท์ ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแห่งอนาคตในขณะนี้


ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2560 ของธุรกิจเล็กๆ ที่มีผู้ร่วมทีมไม่ถึง 5 คน แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ง่ายนัก เพราะในขณะนั้นกระแสของ EV ยังไม่เป็นเทรนด์ที่สร้างการรับรู้มากเช่นทุกวันนี้ แต่จากการที่เคยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศจากประสบการณ์ของตนเอง จึงมั่นใจว่าจากนี้ไปรถ EV จะเข้ามาเร็วมาก การเติบโตจะเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด ภายใน 5 ปี ท้องถนนในเมืองไทยจะเปลี่ยนไป นั่นหมายถึงปัญหามลพิษก็จะถูกแก้ไขไปด้วยเช่นกัน 


พีระภัทร บอกว่า หัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงนี้ได้หรือไม่นั้น ก็คือ การมีระบบนิเวศรองรับผู้ใช้รถ EV อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะการที่ผู้ขับขี่ EV ทุกคนต้องสามารถเข้าถึงหัวชาร์จได้อย่างทั่วถึง


อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะดูเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน แต่ก็ใช้ชีวิตและบริหารเวลาเป็นอย่างดี เมื่อถึงวันว่างจากการทำงาน ก็จะใช้เวลาไปกับการออกกำลังกาย ทั้งการเล่นเทนนิส และการวิ่งออกกำลังกาย รวมถึงการเลี้ยงปลา การจัดตู้ปลา วิ่งเล่นกับสุนัขตัวโปรด  
นอกจากนี้ยังชื่นชอบการสำรวจไปในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินจตุจักร ไปจนกระทั่งช็อปปิ้ง มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อดูไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง แหล่งชุมชน ถ้ามีเวลามากขึ้นอีกก็จะขับรถออกต่างจังหวัด เพื่อมาต่อยอดและเป็นไอเดียในการวางแผนธุรกิจ ดังนั้นวันว่างของผมไม่เพียงแต่เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังถือเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว. 

    
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"