3 ก.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส และนักกีฬาทีมชาติ เข้าพบพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อยื่นข้อเรียกร้องถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจออกกำลังกาย หลังมีคำสั่งปิดสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส และสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาของนักกีฬาทีมชาติในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มานานกว่า 200 วัน
นายปริญญ์ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจสถานออกกำลังกาย ฟิตเนส และสถานฝึกซ้อมกีฬา เป็นกลุ่มที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในช่วงวิกฤตโควิด – 19 เป็นอย่างดี โดยเป็นธุรกิจแรก ๆ ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่กลับเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะเปิดให้บริการตามปกติได้ ทำให้ธุรกิจที่กำลังจะฟื้นตัวต้องล้มลงอีกครั้ง ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องทางการเงิน พนักงานขาดรายได้เลี้ยงชีพ หลายส่วนต้องตกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งความเดือดร้อนในครั้งนี้ยังได้ส่งผลกระทบไปถึงกลุ่มนักกีฬาทีมชาติไทยประเภทต่างๆด้วย เพราะเมื่อสถานฝึกซ้อมกีฬาขนาดใหญ่อย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกสั่งปิด ก็ทำให้นักกีฬาขาดสถานที่พัฒนาตนเอง อาจส่งผลร้ายต่อการแข่งขันกีฬาในนามของประเทศได้ อีกทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้ด้วย
นายปริญญ์ กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจดีถึงความเดือดร้อนดังกล่าว และเห็นใจประชาชนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ จึงเดินหน้าประสานงานกับนายกรัฐมนตรีและศบค. ให้ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการออกกำลังกายฯ ได้มีโอกาสยื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องถึงภาครัฐ เพื่อปลดล็อกกิจการ รวมทั้งร่วมหารือถึงแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาที่เหมาะสม ซึ่งในการยืนครั้งนี้ได้รับการยืนยันจาก พล.อ.ณัฐพล ว่าจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปหารือและพิจารณาในที่ประชุมของ ศปก.ศบค. ต่อไป
ด้าน นายธันย์ปวัฒน์ เตชภูวดลวิทิต ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการออกกำลังกาย กล่าวว่า คำสั่งปิดกิจการส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบอาชีพธุรกิจสถานออกกำลังกาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในวงการทั้งระบบ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือ ดังนี้
1. ยกเลิกคำสั่งปิดกิจการแบบเหมารวม เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีคนติดเชื้อโควิดจากสถานออกกำลังกายน้อยมาก และสถานออกกำลังกายถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้คนสุขภาพดีขึ้น โดยควรให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา14 วัน และหากสถานประกอบการใดที่พบผู้ติดเชื้อ ก็ต้องมีการทำความสะอาดสถานที่ตามมาตรฐานของกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค
2. ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจสถานออกกำลังกายแสะฟิตเนสสามารถกลับมาเปิดบริการได้ภายในวันที่ 1 ส.ค.2564 ภายใต้มาตรการป้องกันโรคตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะ การจำกัดจำนวนคน และความสะอาด เป็นต้น
3. พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยเร็วที่สุด ซึ่งภาครัฐสามารถถือเอาโอกาสนี้เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในอนาคต
4. พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการพักชำระหนี้ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องธุรกิจและการจ้างพนักงานจากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงส่วนลดหรือเลื่อนชำระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตลอดจนลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลของผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับสถานออกกำลังกายและฟิตเนส
5. เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มต่าง ๆ ก่อนที่ภาครัฐจะออกมาตรการต่าง ๆ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |