สหรัฐ-นาโตถอนทหารเกลี้ยง คืนฐานทัพอากาศบากรัมให้อัฟกานิสถาน


เพิ่มเพื่อน    

สหรัฐและกองกำลังนาโตถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากฐานทัพอากาศบากรัมของอัฟกานิสถานแล้วเมื่อวันศุกร์ ส่งสัญญาณการถอนทัพต่างชาติพ้นสงครามยืดเยื้อ 20 ปีคืบใกล้ความจริง ตอลิบันยินดี ผู้เชี่ยวชาญชี้กองทัพอัฟกันต้องปกป้องฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดเองแล้วนับจากนี้

แฟ้มภาพ ทหารอเมริกันเดินแถวขึ้นเครื่องบินลำเลียงซี-17 ออกจากฐานทัพอากาศบากรัม เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2556 (Photo by Robert Nickelsberg/Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐและอัฟกานิสถานในวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม ยืนยันว่าทหารอเมริกันและนาโตทุกนายถอนกำลังออกจากฐานทัพอากาศบากรัมแล้ว

    "ทหารอเมริกันและกองกำลังผสมถอนกำลังออกจากฐานทัพแห่งนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว ต่อจากนี้ไปกองทัพอัฟกันจะปกป้องและใช้ฐานทัพนี้เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย" ฟาวัด อามัน โฆษกกระทรวงกลาโหมอัฟกันทวีต

    รอยเตอร์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะยังมีทหารต่างชาติอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ถอนกำลังออกจากฐานทัพอีกแห่งในกรุงคาบูล แต่การถอนทหารต่างชาติพ้นฐานทัพบากรัม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการปฏิบัติการโค่นล้มตอลิบันและอัลกออิดะห์หลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 เท่ากับเป็นการยุติสงครามยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาลงอย่างแท้จริง

    ฐานทัพแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาบูลทางทิศเหนือระยะขับรถ 1 ชั่วโมง เป็นฐานทัพที่กองทัพสหรัฐใช้ประสานการโจมตีทางอากาศและสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงแก่ภารกิจทั้งหมดในอัฟกานิสถาน การถอนกำลังจากฐานทัพที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นแห่งนี้ทำให้แผนถอนทหารต่างชาติพ้นอัฟกานิสถานภายในเส้นตาย วันที่ 11 กันยายน คืบใกล้ความจริง

    ด้านกลุ่มตอลิบัน ที่รุกโจมตีกองทัพรัฐบาลอย่างหนักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาและเข้าควบคุมพื้นที่ได้หลายสิบอำเภอแล้ว แสดงความยินดีปรีดาและสนับสนุนการถอนทหารต่างชาติออกจากฐานทัพแห่งนี้ ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตอลิบัน กล่าวว่า การถอนกำลังต่างชาติทั้งหมดจะเปิดทางให้ชาวอัฟกันตัดสินอนาคตของพวกเขากันเอง

    ความสามารถของกองทัพอัฟกันในการรักษาฐานทัพอากาศแห่งนี้ไว้ให้ได้ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่าพวกเขาจะสามารถรักษาความมั่นคงในกรุงคาบูลและกดดันตอลิบันต่อไปได้หรือไม่

    นิแชงค์ มอตวานี ผู้เชี่ยวชาญด้านอัฟกานิสถานจากออสเตรเลีย กล่าวว่า การถอนกำลังของกองทัพต่างชาติพ้นบากรัมเป็นสัญลักษณ์ว่า อัฟกานิสถานต้องอยู่ลำพัง โดนทอดทิ้ง ถูกปล่อยให้ป้องกันตนเองจากการโจมตีของตอลิบัน

    "เมื่อกลับถึงบ้าน พวกอเมริกันและกองกำลังพันธมิตรจะได้มองดูจากแดนไกลเห็นสิ่งที่พวกเขาต่อสู้อย่างหนักเพื่อสร้างขึ้นในเวลามากกว่า 20 ปีโดนเผาทำลาย และรู้ว่าชายหญิงชาวอัฟกันที่เคยร่วมต่อสู้กับพวกเขาเสี่ยงที่จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง" เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญรายนี้

    ฐานทัพแห่งนี้สหรัฐสร้างไว้ให้อัฟกานิสถานที่เป็นพันธมิตรระหว่างสงครามเย็นทศวรรษ 1950 และเป็นกำแพงต่อต้านการรุกรานของสหภาพโซเวียตจากทิศเหนือ แต่สุดท้ายกองทัพโซเวียตรุกเข้าอัฟกานิสถานได้ในปี 2522 โดยฐานทัพแห่งนี้กลายเป็นจุดเตรียมการที่กองทัพแดงขยายพื้นที่อย่างกว้างใหญ่ รวมถึงสร้างรันเวย์ยาว 3 กิโลเมตร ระหว่างยึดครองประเทศนี้นานเกือบทศวรรษ

    เมื่อโซเวียตถอนทัพ บากรัมกลายเป็นศูนย์กลางของการก่อสงครามกลางเมือง ช่วงหนึ่งมีรายงานว่า รันเวย์ฝั่งหนึ่งอยู่ใต้การควบคุมของตอลิบัน ขณะปลายอีกฝั่งกองกำลังพันธมิตรฝ่ายเหนือคุมไว้

    หลายเดือนมานี้ บากรัมโดนนักรบญิฮาดกลุ่มรัฐอิสลามยิงจรวดโจมตีหลายครั้ง สร้างความหวาดกลัวว่านักรบกลุ่มนี้กำลังหมายตาฐานทัพแห่งนี้สำหรับการโจมตีในอนาคต

    นับถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีทหารต่างชาติอยู่ในอัฟกานิสถานราว 9,500 นาย เป็นทหารสหรัฐมากที่สุด 2,500 นาย ถึงขณะนี้มีเยอรมนีและอิตาลีที่ยืนยันว่าถอนกำลังออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว

    มีรายงานด้วยว่า หลังถอนทหารหมดแล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐจะยังคงทหารสหรัฐไว้ในอัฟกานิสถานประมาณ 600 นาย เพื่อคุ้มครองสถานที่ทางการทูตอันกว้างใหญ่ของสหรัฐในกรุงคาบูล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"