สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมามีคำสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์ ประชาชนราว 2 ล้านคนเมืองมัณฑะเลย์และอีก 2 ตำบลในเขตพะโค ต้องอยู่บ้านยกเว้นกิจจำเป็น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 1,500 คน ขณะบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากสไตรค์เพื่อประท้วงรัฐประหาร

แฟ้มภาพ พนักงานส่งของหยุดรถรอสัญญาณไฟจราจรในเมืองมัณฑะเลย์ (Photo by Kaung Zaw Hein/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม กล่าวว่า คำสั่งนี้ประกาศโดยกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของสภาบริหารแห่งรัฐ ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหาร โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีกับเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา และอีก 2 ตำบลในเขตพะโคทางภาคใต้ คำประกาศไม่ได้ระบุกรอบเวลาว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด

    ภายใต้มาตรการนี้ ประชาชนทุกคนในพื้นที่ดังกล่าวจะถูกจำกัดห้ามครอบครัวหนึ่งออกจากบ้านได้ไม่เกิน 1 คนเพื่อทำกิจธุระที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ แต่พวกที่เดินทางไปทำงานทางราชการนั้นได้รับการยกเว้น

    เอเอฟพีอ้างข้อมูลจากสำมะโนประชากรปี 2557 ว่าพื้นที่เหล่านั้นมีประชากรรวมกันมากกว่า 2 ล้านคน มาตรการล็อกดาวน์นี้มีบังคับใช้อยู่แล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมในหลายเมืองของรัฐชินทางภาคตะวันตกที่อยู่ใกล้ชายแดนอินเดีย ซึ่งถึงวันศุกร์มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตรวมแล้ว 400,312 คน จากผู้ติดเชื้อเกือบ 30.5 ล้านคน อินเดียเป็นประเทศที่ 3 ในโลกที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 400,000 คน ต่อจากสหรัฐและบราซิล

    เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีมากกว่า 1,500 คน เพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 100 คนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน โดยยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 159,347 คน เสียชีวิต 3,347 คน ถึงแม้จะเชื่อกันว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้

    ระบบรักษาพยาบาลที่ทรุดโทรมของเมียนมาต้องดิ้นรนรับมือกับการระบาดของโควิด-19 อยู่แล้วตั้งแต่ก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมียนมาอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเมื่อปีที่แล้ว แต่การบังคับใช้ไม่เข้มงวดนัก การรัฐประหารทำให้แพทย์, อาสาสมัครและข้าราชการพลเรือนหลายพันคนเข้าร่วมการรณรงค์อารยะขัดขืนด้วยการหยุดงาน

    เมื่อต้นปีนี้ วัคซีนโควิด 1.5 ล้านโดสถูกส่งจากอินเดียมายังเมียนมา และเมื่อวันพฤหัสบดี สื่อทางการรายงานว่า มิน อ่อง หล่าย ผู้นำสภาบริหารแห่งรัฐ เห็นชอบการจัดซื้อวัคซีน 2 ล้านโดสจากรัสเซีย แต่ข่าวไม่ระบุว่าเป็นวัคซีนชนิดใด

    สัปดาห์ที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยด้วยว่า ทางการกำลังเจรจากับจีนเพื่อขอซื้อวัคซีนเพิ่ม.