ปลุกเปิดปท.ทุกพื้นที่ ‘บิ๊กตู่’ลั่นก้าวสำคัญ/ตามด้วยสมุยโมเดล-เชียงใหม่-บุรีรัมย์


เพิ่มเพื่อน    

 “ประยุทธ์” คิกออฟภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว ปลุกคนไทยร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ รวมใจเป็นหนึ่ง อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ลั่นเป็นก้าวสำคัญในนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน เผยวันแรกมีนักท่องเที่ยวจาก 4 สายการบิน ส่วนยอดจองล่าสุดมีกว่า 6 พันราย หมอเบิร์ทแจง ศบค.ขีดเส้นหากใน 1 สัปดาห์มีผู้ติดเชื้อ 75 คนอาจทบทวน แต่หากผ่านฉลุยก็เตรียมเคาะ “สมุยโมเดล” ในอีก 15 วันแล้วตามมาด้วย “เชียงใหม่-บุรีรัมย์”

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ในเวลา 08.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ โดยสารเครื่องบินกองทัพอากาศแอร์บัส 320 หมายเลข 60205 ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
    ต่อมาเวลา 09.50 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงสนามบินภูเก็ต โดยกล่าวกับข้าราชการ ประชาชน และภาคเอกชนที่มารอต้อนรับว่า “ยินดีที่ได้มาพบกัน วันนี้เป็นวันที่รอคอย ดังนั้นเมื่อวันนี้เริ่มต้น ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองไปให้ได้ อยู่ที่คนทุกคน ขอบคุณทุกคน เจ้าหน้าที่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย เสียสละ ขอบคุณทุกคน ทั้งแพทย์ พยาบาล และ อสม. You get what you do ทำดีก็ได้ดี”
จากนั้น นายกฯ โดยสารรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กษ 199 ไปยังด่านตรวจภูเก็ต (ด่านท่าฉัตรไชย) ต.ไม้ขาว จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจด่านในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมนำเสนอการเตรียมความพร้อม และมาตรการตรวจคัดกรองคนที่เดินทางเข้ามาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมการจำลองศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) ด่านภูเก็ต พร้อมได้สอบถามปัญหาที่ต้องแก้ไข
    นายกฯ ยังได้เดินทักทายและให้กำลังใจกลุ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มารอต้อนรับ โดย อสม.ได้ขอถ่ายรูปพร้อมร้องเพลง อสม. และตะโกนให้กำลังใจว่า "นายกฯ สู้ๆ" ขณะที่นายกฯ กล่าวกับ อสม.ว่า ขอขอบคุณทุกๆ คน ฝากขอบคุณครอบครัวและสามีของ อสม.ที่ให้มาทำงานที่เสี่ยง ในการต่อสู้ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด เราทำเพื่อประชาชนเพื่อจังหวัด และเพื่อประเทศ ด้วยหัวใจที่ทุ่มเทเสียสละอดทน ถ้าเราช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยประเทศไทยก็จะไปได้หมด ขอให้ทำความเข้าใจว่าความจำเป็นคืออะไร ถึงมาตรการที่ออกมา ทุกคนก็เดือดร้อนกันหมด ตนเองก็เดือดร้อน ร้อนใจ ต้องทำความเข้าใจและพยายามสื่อสารไปถึงคนนอกพื้นที่ด้วย และขอให้ อสม.ระมัดระวังดูแลสุขภาพ โดยก่อนเดินทางมาได้สวอบแล้วเมื่อวานนี้ และขอให้ทุกคนยิ้มไว้เสมอ ให้บริการคนขอให้ทำด้วยรอยยิ้ม ใครจะว่าจะตำหนิอย่างไร ขอให้เรายิ้ม ต้องทำด้วยใจ ออกมาจากข้างใน
    และในเวลา 10.17 น. พล.อ.ประยุทธ์โพสต์เฟซบุ๊กเพจ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-chan-o-cha” ระบุว่า การเปิดจังหวัดภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วให้เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.64 ไม่ใช่เรื่องจังหวัดภูเก็ตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของการเตรียมตัวและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดทั้งประเทศใน 120 วันตามที่ได้ตั้งไว้
ทั้งนี้ ไฟลต์แรกที่บินเข้าภูเก็ตเป็นสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์จากอาบูดาบี เดินทางถึงภูเก็ตเมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมที่ 10.20 น. โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยสารเข้ามา 25 คน จากเดิมคาดว่าจะมี 46 คน โดยเป็นเที่ยวบินแรกที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยได้มีการฉีดน้ำต้อนรับเครื่องบินที่เข้ามาด้วย ทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวที่ลงระบบเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว 6,287 คน
4 สายการบินเข้าภูเก็ต
    สำหรับสายการบินที่จะลงสนามบินภูเก็ตวันนี้มีทั้งสิ้น 4 สายการบิน คือ 1.สายการบินเอทิฮัด เส้นทางอาบูดาบี-ภูเก็ต เที่ยวบิน EY430 จำนวน 25 คน  2.กาตาร์แอร์เวย์ส เส้นทางโดฮา-ภูเก็ต ถึงเวลา 13.30 น. เที่ยวบิน QR840 จำนวน 136 คน 3.แอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ เส้นทางเทลอาวีฟ-ภูเก็ต ถึงเวลา 13.45 น. เที่ยวบิน LY87 จำนวน 137 คน และ 4.สิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางสิงคโปร์-ภูเก็ต ถึงเวลา 17.10 น. เที่ยวบิน SQ736 จำนวน 100 คน
    ต่อมา เวลา 11.00 น. ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและข้อสั่งการเพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยภายหลังการประชุมนายกฯ แถลงว่า น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้ชาวจังหวัดภูเก็ต โดยมีรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้ว โดยเที่ยวแรกมาจากอาบูดาบี และจะมีมาต่อเนื่อง ซึ่ง 14 วันข้างหน้า และไตรมาสต่อไปจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ และไม่ใช่สำเร็จโดยใคร แต่เป็นคนไทยทุกคน ถ้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็จะสามารถขยายไปที่อื่นได้ จะนำไปใช้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องทำทีละขั้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าทำพร้อมกันจะมีปัญหา วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัด ทำพื้นที่ภูเก็ต เพราะมีศักยภาพและเป็นพื้นที่เล็กที่ควบคุมได้
“วันนี้อยากจะย้ำว่าการเปิดภูเก็ตไม่ใช่เรื่องของจังหวัดภูเก็ต แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ที่ทุกจังหวัดจะต้องเริ่มมีการนำร่อง ดูความเหมาะสม ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ก็ต้องทำ ผมอยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา ขอให้ชาวภูเก็ตช่วยกันทำกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่มีการฝ่าฝืนนำคนเข้า-ออกจากพื้นที่โดยไม่ถูกขั้นตอน ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศ ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตมีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนภูมิใจ เพราะเป็นการทำภารกิจเพื่อชาติ ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อประเทศในการเป็นผู้นำเปิดแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดอื่นๆ ก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต" นายกฯ กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า หลายประเทศไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย แต่วันนี้เริ่มมาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์เป็นสิ่งที่รับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกากัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะได้ฝากความห่วงใยผ่าน ศบค. ผ่านกระทรวงสาธารณสุขและคณะรัฐมนตรี ไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆ แก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเราต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง นี่เป็นมาตรฐานที่ต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังที่นี่ และทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้ มันช้าไปหมด
    "วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดีมาตลอด นั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอด เมฆฟ้าทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดี ยิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความสุข"
พล.อ.ประยุทธ์ยังขอให้ทุกคนปรบมือเพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่า การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ติดอยู่ที่เดิมขอฝากทุกคนด้วย
ปลุกคนไทยสร้างประวัติศาสตร์
นายกฯ ยังฝากถึงชาวภูเก็ตให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ เปิดไฟ มีแสงสีไม่ให้เงียบเหงา เรื่องอื่นๆ รัฐบาลจะดูแล และขอบคุณชาวภูเก็ตที่รัก และฝากขอบคุณทุกจังหวัดที่ร่วมมือกัน ในการปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่ผู้บริหารมารวมกันอยู่ที่นี่ ขณะที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจำนวนเพิ่มขึ้น โดยนายกฯ ได้หันหลังเดินออกไป พร้อมระบุสั้นๆ ว่า "อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้"
    ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “HUG THAIS HUG PHUKET” จัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต
“ทราบดีว่าทุกคนฝากความหวังไว้กับรัฐบาล ฝากไว้กับผม ซึ่งผมจะทำให้ดีที่สุด วันนี้เป็นสิ่งที่ทุกท่านต้องเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน เรามีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ วันนี้เป็นโลกไร้พรมแดน ทั้งเศรษฐกิจและดิจิทัลถึงกันหมด เราต้องทำอย่างไรให้คนของเราพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลงตรงนั้น ได้รับประโยชน์โดย ไม่สร้างความขัดแย้ง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนไทยมาหลายร้อยปี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในระหว่างเปิดงาน
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกับตนในการสร้างประวัติศาสตร์ประเทศไทย นำประเทศชาติไทยยุคโควิด-19 ดำเนินตามแผนเปิดประเทศ 120 วัน หากที่จังหวัดนี้ทำได้ทุกพื้นที่ทำได้ มันเปิดได้ทั้งหมด วันนี้อยากจะบอกว่ามีความสุข พูดมาตั้งแต่เช้าแล้วเหนื่อย เมื่อวานเก็บตัวไม่ได้พูดอะไรเลย เก็บมาไว้พูดที่ภูเก็ต ขอให้ต้อนรับคนไทยกันด้วย ให้ดีที่สุด นั่นคือเพื่อนร่วมชาติท่าน ชาวต่างประเทศก็ต้อนรับด้วยรอยยิ้มความโอบอ้อมอารีด้วยความเป็นไทย ให้คืนกลับมาว่านี่คือประเทศไทยของเรา
ในเวลา 15.30 น. ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ ตรวจความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยว โดยนายกฯ ร่วมกิจกรรมปลูกต้นจิกทะเล และกล่าวว่า "โตไวๆ นะ ห้ามตาย ขอให้ร่มเย็นเป็นสุข" รวมทั้งร่วมกิจกรรมปล่อยเต่าตนุจำนวน 9 ตัว กลับคืนสู่ธรรมชาติ พร้อมกล่าวกับเต่าว่า "ไปลงทะเล ลืมตาได้แล้ว"
และเวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะได้เดินทางกลับมายังสนามบินภูเก็ต เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จากสายการสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ 736 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวน 51 คน โดยเวลา 17.28 น. ทันทีที่นักท่องเที่ยวเดินก้าวเข้าภายในอาคาร นายกฯ พร้อมคณะได้ปรบมือต้อนรับ โดยนายกฯ กล่าวทักทายว่า " Hello welcome to Thailand" ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคน เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่านายกฯ และคณะจะมาต้อนรับ และเมื่อมีเจ้าหน้าที่แนะนำว่านี่คือนายกฯ ของประเทศไทย นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนได้เข้ามาขอถ่ายรูป บางคนก็ขอเซลฟีด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์และคณะได้เดินทางกลับ กทม.ในเวลา 18.40 น.
1 สัปดาห์ห้ามติดเชื้อเกิน 75 คน
    ด้าน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีมาตรการเฝ้าระวังการระบาดอย่างเข้มงวด โดยมีแผนเผชิญเหตุหากพบผู้ติดเชื้อ อีกทั้งยังมีการกำหนดมาตรการทบทวนโครงการหากพบผู้ติดเชื้อ 15 คนต่อประชากร 1 แสนคนในรอบสัปดาห์ ซึ่ง จ.ภูเก็ตมีประชากรทั้งที่มีทะเบียนบ้านและประชากรแฝงประมาณ 547,000 คน ดังนั้น ถ้าใน 1 สัปดาห์พบผู้ติดเชื้อ 75 คน ก็จะทบทวน ชะลอ หรือยกเลิกโครงการ แต่ถ้าโครงการดังกล่าวทำได้ดีจะขยายไปพื้นที่อื่น อาทิ สมุยโมเดลในอีก 15 วัน ส่วนพื้นที่แผ่นดิน ได้เริ่มมีการตระเตรียมนำเสนอแผน ปรับมาตรการให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ อาทิที่ จ.เชียงใหม่และบุรีรัมย์
 “ที่กังวลต่อกรณีนายกฯ ประกาศเปิดประเทศ 120 วัน หรือช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ไม่ใช่การตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่มีการหารือกับคณะกรรมการ คณะทำงาน อาจารย์แพทย์ หลายภาคส่วนก่อนจะประกาศออกมา ย้ำว่าก่อนถึง 120 วัน จะมีการติดตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มงวด ถ้ามีการพิจารณาจากคณะทำงานว่ายังไม่พร้อม แผนจะปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้ แต่การไม่มีแผนเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นการประกาศ 120 วันถือเป็นทิศทางที่จะขับเคลื่อนทุกภาคส่วน และขอให้ทุกจังหวัดสำรวจตัวเองว่า 120 วันพร้อมหรือไม่ หากยังไม่พร้อม ต้องไปทบทวนว่าอะไรยังหละหลวม เพื่อร่วมด้วยช่วยกันให้แผนเป็นไปได้” พญ.อภิสมัยกล่าว
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อรองรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า ปัจจุบันมีเตียงรองรับผู้ป่วยวิกฤติ สีแดง เขตสุขภาพที่ 11 มีจำนวนทั้งสิ้น 89 เตียง ในจังหวัดภูเก็ตมี 26 เตียง ใช้ไป 9 คงเหลือ 17 เตียง, เตียงรับผู้ป่วยอาการปานกลาง สีเหลือง เขตสุขภาพที่ 11 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,092 เตียง ในจังหวัดภูเก็ตมี 195 เตียง ใช้ไป 27 คงเหลือ 168 เตียง และเตียงรับผู้ป่วยอาการน้อย สีเขียว เขตสุขภาพที่ 11 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,058 เตียง โดยในจังหวัดภูเก็ตมี 435 เตียง ใช้ไป 15 คงเหลือ 420 เตียง ส่วนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ทุกรายการได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขทำให้มีสต๊อกได้เกิน 1 เดือน ยารักษาโควิด-19 Favipiravir 200 mg. มีการตรวจเช็กแบบเรียลไทม์ ซึ่งปัจจุบันภูเก็ตมีการจ่ายยาเพื่อรักษา 50 เม็ด/วัน ปัจจุบันคงเหลือ 3,772 เม็ด แต่ในส่วนของเขตสุขภาพที่ 11 ทั้งหมดมีการจ่าย 1,020 เม็ด/วัน คงเหลือ 21,864 เม็ด.  

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"