ศบค. ย้ำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยอดป่วยพุ่งทบทวนทันที แนะทุกจังหวัดคุมอยู่-ชงแผนได้


เพิ่มเพื่อน    

1 ก.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,533 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,477 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,788 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,689 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 44 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 264,834 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 3,223 ราย หายป่วยสะสม 210,702 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 52,052 ราย อาการหนัก 1,971 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 566 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 57 ราย ถือเป็นนิวไฮ เป็นชาย 30 ราย หญิง 27 ราย อยู่ใน กทม. 34 ราย สมุทรปราการ 9 ราย ปทุมธานี 3 ราย นครปฐม นครนายก จังหวัดละ 2 ราย เชียงราย ชัยภูมิ สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส สมุทรสาคร สุพรรณบุรี จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 2,080 ราย ในส่วนของการฉีดวัคซีนวันที่ 30 มิ.ย. มีการฉีดทั้งสิ้น 254,992 โดส ทำให้ยอดรวมสะสมการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. มีทั้งสิ้น 9,927,698 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก​ มีผู้ติดเชื้อสะสม 182,975,530 ราย เสียชีวิตสะสม 3,962,781 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดของวันที่ 1 ก.ค. ได้แก่ กทม. 1,960 ราย สมุทรปราการ 435 ราย ปทุมธานี 321 ราย สมุทรสาคร 298 ราย สงขลา 272 ราย ชลบุรี 261 ราย นครปฐม 231 ราย นนทบุรี 224 ราย ปัตตานี 180 ราย ยะลา 136 ราย โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง ที่โรงงานไก่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พบผู้ติดเชื้อ 104 ราย วิทยาลัยเทคนิค อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบผู้ติดเชื้อ 11 ราย

ขณะที่ข้อมูลลักษณะทางระบาดวิทยาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ปัจจุบัน พบประวัติผู้เดินทางมาจากพื้นเสี่ยงคือ กทม.และปริมณฑล กระจายไป 32 จังหวัด อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ อ่างทอง สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ ยโสธร ภูเก็ต ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงไปยังจังหวัดต่างๆ ขอให้กักตัวเอง ส่วนจังหวัดเจ้าของพื้นที่ขอให้ติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และกรณีมีผู้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หากใครมีอาการปอดอักเสบขอให้ตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกคน พร้อมกับขอให้ผู้ป่วยอย่าปกปิดข้อมูล ถือเป็นการช่วยกันในการรักษาระบบสาธารณสุข

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยืนยันมีมาตรการเฝ้าระวังการระบาดอย่างเข้มงวด โดยมีแผนเผชิญเหตุหากพบผู้ติดเชื้อ อีกทั้งยังมีการกำหนดมาตรการทบทวนโครงการหากพบผู้ติดเชื้อ 15 คนต่อประชากร 1 แสนคนในรอบสัปดาห์ ซึ่ง จ.ภูเก็ต มีประชากรทั้งที่มีทะเบียนบ้านและประชากรแฝง ประมาณ 547,000 คน ดังนั้น ถ้าใน 1 สัปดาห์พบผู้ติดเชื้อ 75 คน ก็จะมีการทบทวน ชะลอ หรือยกเลิกโครงการ แต่ถ้าโครงการดังกล่าวทำได้ดีจะขยายไปพื้นที่อื่น อาทิ จะมีสมุยโมเดลในอีก 15 วัน ส่วนพื้นที่แผ่นดิน ได้เริ่มมีการตระเตรียมนำเสนอแผน ปรับมาตรการให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ อาทิ ที่ จ.เชียงใหม่ บุรีรัมย์ มีการทำงานอย่างหนัก หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้และประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 70 สามารถเสนอมาตรการมาให้พิจารณาได้

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ยืนยันว่าการประกาศนโยบายอะไรมาไม่ได้ตัดสินใจโดยง่าย มีความยากลำบากจริงๆ เพราะทุกมาตรการที่เสนอมา จะเห็นว่ามีความเห็นต่าง อย่างเช่นการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว บางฝ่ายเห็นว่ายังไม่พร้อม แต่การพิจารณาแนวทางดังกล่าวมีคณะกรรมการหลายฝ่ายช่วยกันคิด เราไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายเห็นตรงกันได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแสดงความเห็นออกมาว่าระยะยาวโควิด-19 จะไม่หายไปโดยเร็ว จะอยู่กับโลกของเรา มีคนเริ่มพูดกันว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น แต่จะไม่ก่อให้เกิดการระบาดที่รุนแรงเท่าปัจจุบัน อาจคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่ที่มาเป็นฤดูกาล ระบบสาธารณสุขยังต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและมีมาตรการในการควบคุมโรค อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการเปิดประเทศและการผ่อนปรนมาตรการยังมีความจำเป็น ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในภาคธุรกิจ ซึ่งมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดต้องสอดคล้องกับความอยู่รอดของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม ความเสี่ยงต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

“ที่มีความกังวลต่อกรณีนายกฯประกาศเปิดประเทศ 120 วัน หรือช่วงเดือน ต.ค. พ.ย. โดยแผนจำเป็นต้องมีเป้าหมาย ทิศทาง และตัวเลข 120 วันไม่ใช่การตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่มีการหารือกับคณะกรรมการ คณะทำงาน อาจารย์แพทย์ หลายภาคส่วนก่อนจะประกาศออกมา ย้ำว่าก่อนถึง 120 วัน จะมีการติดตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มงวด ถ้ามีการพิจารณาจากคณะทำงานว่ายังไม่พร้อม แผนจะปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้ แต่การไม่มีแผนเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น การประกาศ 120 วันถือเป็นทิศทางที่จะขับเคลื่อนทุกภาคส่วน และขอให้ทุกจังหวัดสำรวจตัวเองว่า 120 วันพร้อมหรือไม่ หากยังไม่พร้อมต้องไปทบทวนว่าอะไรยังหละหลวม เพื่อร่วมด้วยช่วยกันให้แผนเป็นไปได้” พญ.อภิสมัย กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"