30 มิ.ย.64 - นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา อดีตผู้อำนวยการสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันและเครือข่าย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังนี้
#ประเทศไทยจะชนะคนไทยต้องร่วมด้วยช่วยกันจึงจะชนะ
#ถึงเวลาปฏิบัติการเชิงรุกหมอต้องรักษาผู้ป่วยถึงบ้าน
#Telemedicine
ขออาศัยความรู้เล็กๆน้อยๆจากการเคยทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกันและเครือข่าย เกือบ10ปี ช่วงประมาณ
พศ2540-2550 ในประสานงานช่วยเหลือผู้ป่วยฯลฯให้กับพี่น้องในกทม ปริมณฑลและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร ดังนี้
ศบค กทม สธ มหาดไทย กลาโหมและหน่วยที่เกี่ยวข้องควร
1) จัดตั้งศูนย์อำนวยการข้อมูลสื่อสารประชาสัมพันธ์24ชั่วโมง โดยเพิ่มทุกช่องทางการติดต่อจากผู้ป่วยหรือชุมชน เพื่อให้ความช่วยเหลือแนะนำหรือเพื่อส่งชุดปฏิบัตการเข้าพื้นที่
2)จัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการเชิงรุก 1,000ชุด เข้าพื้นที่เพื่อรักษาผู้ป่วยและควบคุมโรค อาการเบาให้ยารักษา อาการหนักปานกลางหรือหนักมากให้เตรียมประสานเคลื่อนย้ายเข้ารพรัฐหรือรพสนาม ในกทมและปริมณฑลรวม1,000ชุด
โดยกทม จัดศูนย์กลางรับเรื่อง 24ชั่วโมง รับประสานงานจาก50เขตแต่ละเขตจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่10-20ชุดโดยใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะและมีรถกู้ภัยและรถศูนย์ผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นแม่ข่าย
จังหวัดปริมณฑลให้จัดศูนย์ประสานงานระดับจังหวัดเช่นเดียวกับ กทม ให้แต่ละอำเภอจัดชุดปฏิบัติการอำเภอละ10-20 ชุดแล้วแต่ความหนักเบาของแต่ละพื้นที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดอื่นๆให้ผวจ พิจารณา จัดตั้งศูนย์และชุดปฏิบัติการแบบเดียวกันตามความเหมาะสมกับสถานการณ์
3)แพทย์1คนเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาทางtelemedicineได้วันละมากกว่า1พันคน โดยตั้งศูนย์แพทย์ควบคุมการปฏิบัติทางtelemedicine ผ่านกล้องจากโทรศัพท์มือถือของชุดปฏิบัติการ ในการดูอาการ ซักถาม และสั่งให้ยาแก่ผู้ป่วยพร้อมคำแนะนำทางการแพทย์ จากชุดปฏิบัติการที่เข้าไปรักษาผู้ป่วยถึงบ้าน เพราะผู้ป่วยอาการไม่หนักมากสามารถรักษาตัวที่บ้าน(home isolation )ภายใต้การดูแลของแพทย์ได้ เป็นการลดการการแพร่เชื้อและแก้ไขปัญหาเตียงไม่พอรองรับ
4)ชุดปฏิบัติการเป็นกำลังผสม แพทย์ หน่วยทหารเสนารักษ์ หน่วยแพทย์ตชด เครือข่ายอาสาสมัครแพทย์พยาบาล หน่วยกู้ชีพนเรนทร หน่วยกู้ภัย อสม เครือข่ายประชาชนจิตอาสา เทศกิจ อปพร ฯลฯ ที่ต้องได้รับการฝึกอบรมปฐมพยาบาล การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ การให้ยา การสื่อสารผ่านวิดิโอคอลทางไลน์หรือtelemedicineพื้นฐาน
พร้อมอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโรคเบื้องต้น ทั้งlapid test และอุปกรณ์ตรวจคัดกรองเชื้อโควิด 19 แบบ RT-PCR (Swap) ยารักษาโรคโควิดฟาวิพิราเวียร์ และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และเอกสารคู่มือการปฏิบัติตัวของผู้ติดเชื้อในการกักตัวเอง14วันเพื่อรักษาและดูอาการ แนะนำให้ผู้ป่วยและคนในครอบครัว
5) หากดำเนินการตาม1-4บรรลุผลแล้ว ให้ขยายผลและขีดความสามารถของศูนย์และหน่วยปฏิบัติการเพื่อเร่งระดมฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสูงอายุ และกลุ่มคนเปราะบางที่เข้าถึงรพและวัคซีนยากในแบบเดียวกัน
ผมทราบดีว่าแต่ละท่านนั้นมีภาระหนักมาตลอด1ปีครึ่งที่ผ่านมา และอาจมีคำตอบว่ามีหมอไม่เพียงพอ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด19ที่กำลังรุกคืบประเทศไทยและยังมีแนวโน้มทวีคูณทั้งคนป่วยเฉลียสูงถึงวันละ5พันคนตายวัละ30-50คน ขณะที่เตียงผู้ป่วยในห้องไอซียูและเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ
ผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตอาจสูงขึ้นเท่าตัวใน1-2เดือนนี้ แม้มาตรการกึ่งล้อคดาวน์ของศบค ที่ออกมาปิดแคมป์คนงาน ห้ามจัดชุมนุมพบปะสังสรรค์ ห้ามรับประทานอาหารในร้านฯลฯ จะออกมาแล้ว
แต่การหวังผลให้การแพร่ระบาดไม่อาจทำได้ทันที อาจใช้เวลามกว่า2-4สัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขการระดมฉีดวัคซีนอาจได้ถึง10ล้านโดสแล้วก็ตาม แต่ยังเป็นการไล่หลังภาวะระบาด ที่กว่าจะสร้างภูมคุ้มกันหมู่ (herd immunity)คือ70%ของประชากรหรือ100ล้านโดสนั้น จะต้องใช้เวลาอีก4-6เดือน
จึงเสนอผ่านสื่อสาธารณะมายังท่านนายกลุงตู่และผู้เกี่ยวข้องอยากให้รับฟังข้อสนอผมสักนิด ส่วนจะไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขมากน้อยประการใดแม้ใช้ได้เพียง1ข้อเล็กน้อย ก็ดีใจแล้ว เพราะถือว่าทุกคนได้ทำบุญใหญ่ช่วยคนไทยทุกคนกันครับ
ด้วยจิตคารวะ
สมชาย แสวงการ
สมาชิกวุฒิสภา
ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ
และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
อดีตผู้อำนวยการสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันและเครือข่าย
30มิย 2564
หมายเหตุ ขอบคุณรูปภาพประกอบจากหลายแหล่งและหลายเหตุการณ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |