30 มิ.ย. 2564 นายแคมป์เบล วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินสกู๊ต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด “แอร์บัส A321neo” มาประเดิมทำการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)-สิงคโปร์ เป็นเที่ยวบินแรก หลังกลับมาทำการบินในเส้นทางนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะให้บริการ 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเดือน สิงหาคม 2564 มีแผนนำเครื่องบินรุ่นใหม่นี้ให้บริการในเส้นทาง สิงคโปร์–เซบู (ฟิลิปปินส์) และสิงคโปร์–โฮจิมินห์ (เวียดนาม) ด้วยเครื่องบิน A321neo ลำใหม่นี้ รองรับผู้โดยสารได้ 236 ที่นั่ง มีพิสัยการบินสูงถึง 2,620 ไมล์ทะเล หรือ 4,852 กิโลเมตร(กม.) ทำการบินได้ในเส้นทางบินระยะสั้นถึงกลาง ด้วยเวลาบินสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง(ชม.) รองรับแผนการเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางบินใหม่ของสกู๊ตได้มากขึ้นในอนาคต
นายแคมป์เบล กล่าวต่อว่า เครื่องบินรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีล่าสุด ทั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ และอุปกรณ์ปลายปีกแบบชาร์คเล็ท (Sharklets) มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ถึง 20% ห้องโดยสารได้ออกแบบตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารได้ดียิ่งขึ้น อาทิ เก้าอี้โดยสารเบาะหนังสีดำพรีเมียม ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะขนาดใหญ่ เทคโนโลยีแสงไฟแบบ Ambient Light ที่สามารถช่วยลดอาการเจ็ทแลค รวมถึงคุณภาพอากาศในห้องโดยสาร และประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ที่ดียิ่งขึ้นด้วย
นายแคมป์เบล กล่าว่า สายการบินสกู๊ต ได้เริ่มทยอยเปิดทำการบินเส้นทางต่างๆ หลังต้องหยุดทำการบินในบางเส้นทางไปเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันเปิดทำการบินแล้ว 26 เส้นทางจากทั้งหมด 68 เส้นทางทั่วโลก หรือประมาณ 20% โดยบริษัทมีแผนจะกลับมาทำการบินในเส้นทางเดิมให้ครบทุกเส้นทางก่อน รวมถึงเส้นทางบินในประเทศไทยด้วย ได้แก่ สิงคโปร์–เชียงใหม่ สิงคโปร์–หาดใหญ่ สิงคโปร์–กระบี่ และ สิงคโปร์–กรุงเทพฯ–โตเกียว(ญี่ปุ่น) ส่วนจะกลับมาทำการบินได้เมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และกฎระเบียบต่างๆ ของประเทศไทยด้วย ขณะที่เส้นทางบินใหม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะเปิดในเส้นทางบินใดบ้าง
นายแคมป์เบล กล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ คาดการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกว่า จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ภายในปี 66 นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดเอเชียน่าจะแข็งแรงกลับมาเติบโตฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะประเทศไทย เมื่อทุกคนได้ถอดหน้ากากอนามัยแล้วจะกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มเหมือนเดิม และเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้งอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมั่นใจว่าหลังจากโรคโควิด-19 คลี่คลายลง ความต้องการในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจะมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ด้วย
นายแคมป์เบล กล่าวอีกว่า สกู๊ต พร้อมแล้วที่จะกลับมาให้บริการผู้โดยสารด้วยความปลอดภัย ซึ่งลูกเรือ และนักบิน ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว 100% และยังคงคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ยังได้ลงทุนนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้สำหรับการให้บริการที่ลดการสัมผัส โดยเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัลมากขึ้น อาทิ เช็คอินผ่านออนไลน์, อัพเกรดที่นั่ง หรือซื้อบริการต่างๆ ผ่านแชทบอท รวมถึงชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด
นอกจากนี้ยังคงมาตรการเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยสามารถเปลี่ยนที่นั่งได้ฟรี และขอคืนค่าตั๋วโดยสารเป็นเงินสดได้ด้วย ซึ่งสายการบินสกู๊ตถือเป็นสายบินแรกๆ ของโลกที่จ่ายเงินสดคืนให้ผู้โดยสาร แม้จะทำให้สายการบินสกู๊ตต้องเสียเงินสดเป็นจำนวนมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารที่จะเลือกกลับมาทำการบินกับสกู๊ตอีกครั้ง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |