ครม. เคาะ 5 พันล้านเยียวยาผู้ประกอบการ-แรงงานในกิจการก่อสร้าง อาหาร บันเทิง บริการ


เพิ่มเพื่อน    

29 มิ.ย.64 - นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.) เห็นชอบในหลักการมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดควบคุมไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 25 ทั้งแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคม และนอกระบบ ในกิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจกรรมสาขาศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ ในระยะเวลา 1 เดือน

สำหรับรูปแบบการช่วยเหลือ กลุ่มแรก คือ แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการให้ความช่วยเหลือผ่านระบบประกันสังคมที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างและนายจ้างตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณี ว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. 2563 ในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีคำสั่งปิดสถานที่ แต่ไม่เกิน 90 วัน

กลุ่มที่ 2 ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และกลุ่มที่ 3 ผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แยกเป็น 3 กรณี คือ กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนก.ค.64 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุด ไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน

กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนก.ค.เช่นกัน โดยผู้ประกอบการ จะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท และกรณีที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง จะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งและมีลูกจ้างแต่ยังไม่อยู่ในระบบประกันสังคมให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนก.ค.นี้

ส่วนมาตรการอื่น ๆ ได้ขอให้กระทรวงการคลังทำโครงการต่างๆ ทั้ง โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ขณะที่มาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป ได้ขอเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ โดยให้กระทรวงแรงงาน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างมาลงทะเบียนในระบบประกันสังคม และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประสานกับกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการคลัง เพื่อออกแนวทางการช่วยเหลือต่อไป

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า วงเงินที่ใช้ในการเยียวยาครั้งนี้ ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมตามมติในที่ประชุมร่วมกับนายรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดวงเงินไว้ 4,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท เพราะต้องเตรียมความพร้อมไว้รองรับกรณีที่อาจมีผู้เข้ามาในระบบมากขึ้น ทั้งระบบประกันสังคม และลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการช่วยเหลือเยียวยาส่วนนี้ ยังไม่รวมวงเงินช่วยเหลือผ่านกองทุนประกันสังคมที่ชดเชยจากมีเหตุสุดวิสัย ในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน ซึ่งจะใช้เงินจากกองทุนประกันสังคม 3,500 ล้านบาท


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"