29 มิ.ย.64 - เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์อำนวยการสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,662 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อภายในประเทศ 4,624 ราย ติดเชื้อจากเรือนจำ 10 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 28 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 254,515 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,793 ราย หายป่วยสะสม 177,638 ราย  กำลงรักษาอยู่ 47,481 ราย โดยในวันนี้มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 36 ราย  ผู้ป่วยอาการหนัก 1,846 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 527 ราย

เสียชีวิตสะสม 1,876 ราย สำหรับยอดการฉีดวัคซีนภายในประเทศ  ฉีดแล้ว 9,416,972 ราย แบ่งเป็นเข็มแรก 185,261 ราย สะสม 6,721,038 ราย และเข็มที่สองจำนวน 86,273 ราย สะสม 2,695,934 ราย

สำหรับข้อมูลผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามกลุ่มอายุ คนกลุ่มอายุ 20-29 และกลุ่มอายุ 30-39 เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อที่สุด ซึ่งยอดยังต่อเนื่องโดยเป็นภาพเดิมเหมือนเมื่อปี่ที่แล้ว ที่มีการออกจากบ้านโดยเฉพาะจากการออกไปทำงาน ในส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุแม้จะเป็นกลุ่มน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูง เพราะฉะนั้นวัคซีนเพื่อให้กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับวัคซีนก่อนเพื่อให้ลดอาการป่วยหนัก และลดการใช้เตียง แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มคนวัยทำงานก็เป็นกลุ่มที่มีการนำเชื้อไปหลายๆที่ ก็จะเป็นกลุ่มที่ต้องใช้มาตรการออกมาควบคุม จึงขอความร่วมมือในเรื่องของการระบาดวิทยา

ในส่วนผู้เสียชีวิตในวันนี้แบ่งออกเป็นกรุงเทพมหานคร 19 ราย นนทบุรี 7 ราย นครปฐม เชียงราย จังหวัดละ 2 ราย และสมุทรสาคร สมุครปราการ ชลบุรี สงขลา ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย โดยแบ่งออกเป็นเพศชาย 20 ราย และหญิง 16 ราย มีค่ากลางอายุ 67.5 ปี (41-93 ปี) อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเป็นชาวไทย 35 ราย และนิวซีแลนด์ 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคล้ายเดิมไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง จำเป็นต้องระมัดระวังตัวโดย ส่วนปัจจัยเสี่ยงยังเป็นคงคนในครอบครัว โดยมีช่วงเวลาวันนอนจนถึงวันเสียชีวิตค่อยๆลดถอยลงมา มีตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 9 วัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ข้อมูลเชิงระบาดวิทยาพบว่าผู้ติดเชื้อที่มาจากคลัสเตอร์ต่างๆมีจำนวนแค่ 25% มีจำนวน 1 ใน 4 ส่วนที่เหลือเป็นคนในครอบครัว ทำให้เห็นว่ามาตรการใหญ่ที่ได้ออกมาไปอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์ใหญ่ๆก็จัดการได้แค่กลุ่มหนึ่ง แต่มาตรการรายย่อยต้องดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นอย่างดี

ด้านข้อมูลผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากกัมพูชา 26 ราย โดยมี 8 รายเดินทางเข้ามาในช่องทางธรรมชาติ จึงขอให้บุคคลกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาในช่องทางหลัก

สำหรับข้อมูลการติดเชื้อรายจังหวัด 10 อันดับแรก กรุงเทพฯพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด 1,692 ราย สมุทรปราการ 647 ราย สมุทรสาคร 293 ราย นนทบุรี 185 ราย สงขลา 182 ราย ปทุมธานี 180 นครปฐม 168 ราย ชลบุรี 146 ราย ปัตตานี 143 ราย และยะลา 89 ราย โดยแนวโน้มแต่ละจังหวัด กรุงเทพฯมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น จ.นนทบุรี ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามาตรวจในโรงพยาบาล และสมุทรปราการผู้ติดเชื้อพุ่งอย่างชัดเจน

พ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับการตั้งสมมติฐานพื้นที่การแพร่ระบาดประกอบชุมชน แคมป์ก่อสร้าง และตลาด โดยจากการเฝ้าระวังแบบสุ่มตรวจแล้ว ปรากฏว่าตลาดมีโอกาสติดเชื้อสูงสุด ซึ่งจากการตรวจตลาด 32 แห่ง พบผู้ติดเชื้อ 6 แห่ง ทั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยดูแลความสะอาดของแต่ละชุมชน

ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ในวันนี้มาจากโรงงานห้องเย็น อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 9 ราย โรงงานทำสบู่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 46 ราย โรงานยางรถยนต์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 14 ราย  บริษัทผลิตสายไฟ 12 อ.ปลวกแดง จ.พระนครศรีอยุธยา 12 ราย บริษัทผลิตแผงวงจรไฟฟ้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 11 ราย บริษัทแห่งหนึ่ง (ไม่ระบุ) อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี 25 ราย

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแผนที่ประเทศไทยมีจังหวัดที่ไม่พบเชื้อในวันนี้มีจำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย มหาสารคาม ลำพูน ตราด ยโสธร แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร ซึ่งมีจำนวนจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อน้อยลง เห็นได้จากแรงงานย้ายถิ่นกลับไปยังจังหวัดต่างๆ จึงอยากฝากว่าถ้าท่านกลับบ้านถ้ามีอาการติดเชื้อขอให้แสดงตัวกับสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อเข้ารับการรักษา