'กรณ์'ชี้เยียวยาลูกจ้างมาถูกทาง แต่ขอรัฐสมทบเพิ่มจาก 9.5 พัน เป็น1.2หมื่นบาท 3 เดือน


เพิ่มเพื่อน    

29 มิ.ย.64- นายกรณ์ จาติกวณิช  หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ่ายทอดสดบนเฟซบุ๊ค ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้เราสัมผัสได้ว่าจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ และทัศนคติที่มีต่อไวรัสแน่นอนว่า คำตอบสุดท้ายคือ การฉีดวัคซีน ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีน 2.5 แสนเข็มต่อวัน ซึ่งเท่ากับ 7.5 ล้านเข็มต่อเดือน และภายในสิ้นปีก็จะฉีดได้ประมาณ 40 ล้านเข็ม เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่จะไปให้ถึง 100 ล้านเข็ม จึงยังห่างไกล ต้องปรับการฉีดให้ได้วันละ 5 แสนเข็ม จึงจะเข้าเป้า และครอบคลุม นอกจากนี้สิ่งที่น่าห่วงคือ การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ ซึ่งหมายความว่าภายใน 4 เดือน ประชาชนคนไทยจะต้องเข้าถึงวัคซีนได้แล้ว 70%  

แต่หากยังฉีดกันในจำนวน 2.5 แสนเข็มต่อวัน ไม่มีทางทันแน่นอน วันนี้รัฐบาลจึงต้องประเมินตามสถานการณ์ความเป็นจริง หากไม่ยอมรับความจริงก็จะไม่สามารถเตรียมมาตรการได้ทัน และจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา หากเราเปิดประเทศได้ช้า ทั้งนี้ ถ้าเราจะเปิดประเทศให้ได้ ต้องฉีด 70% ของประชากร แต่อัตราที่ฉีดปัจจุบันไม่มีทางถึงแน่นอน และการฉีดเพียงเข็มเดียวก็ยังไม่สมควร 

นายกรณ์ ยังกล่าวถึงมาตรการเยียวผู้ประกอบการและลูกจ้าง ว่า เริ่มมีนโยบายที่เข้าเป้า พรรคกล้าเรียกร้องมาโดยตลอดโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร วันนี้รัฐบาลตั้งงบไว้ที่ 7.5 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบจากกองทุนประกันสังคมที่มีผู้ประกันตนอยู่เกือบเจ็ดแสนคน ตามกฎหมาย โดยกำหนดให้พวกเขาได้รับสิทธิชดเชยรายได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ชดเชยรายได้สูงสุดไม่เกิน 7.5 พันบาท รวมถึงการจัดสรรเงินจาก เงินกู้ พ.ร.ก.ห้าแสนล้าน เพิ่มเติมให้รายละ 2 พันบาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้แค่ครั้งเดียวและเดือนเดียว นอกจากนี้ รัฐจะเยียวยาให้ผู้ประกอบการเพิ่มเติมตามรายหัวลูกจ้าง  โดยคำนวณตามสูตร ลูกจ้างจะได้รับเยียวยา 3,000 บาท เพดานสูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาท ต่อกิจการ  เพื่อผ่อนหนักเป็นเบาในแง่ภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะเป้าหมายหลักที่เราเรียกร้องคือ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็ก ก็มีลูกจ้างแค่หลักหน่วยหลักสิบ เพดานดังกล่าว น่าจะครอบคลุมได้ทั้งหมด

“นโยบายลักษณะนี้มาถูกทาง แต่ไม่น่าเพียงพอ สำหรับลูกจ้าง การได้รับเงินชดเชยจากกองทุนประกันสังคมสูงสุด 7,500 บาท และเมื่อร่วมกับเงินสมทบทุนอีก 2,000 บาท หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน ก็ยังต่ำกว่าครึ่ง ไม่น่าเพียงพอ ต่อภาระค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องมี และยิ่งมาตรการที่ประกาศให้เพียงแค่ 1 เดือน ยิ่งทำให้ผู้ประกันตนมีความกังวลว่าเมื่อพ้นเดือนไปแล้วเขาจะอยู่อย่างไร ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึง ครม.เศรษฐกิจที่พิจารณาเรื่องนี้ว่า ขอให้ขยายวงเงินจาก 2พันบาท เป็น 5พันบาท และขยายเวลาในการช่วยเหลือจาก1เดือน เป็น 3เดือนแทน บวกกับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 7.5 พันบาท ก็จะเป็นเงิน 1.25 หมื่นบาท ก็น่าจะพอประทังชีวิตให้กับครอบครัวช่วงนี้ ผมคำนวณแล้ว ในแง่ภาระต่องบประมาณของรัฐเป็นวงเงินที่น่าจะแบกรับไว้ได้  เพราะวงเงินที่รัฐจัดสรรไว้เพื่อการชดเชยให้ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการโดยรวมมีเพียงแค่ประมาณ  4,000 ล้านบาท" 

  นายกรณ์ กล่าวต่อว่า โอกาสที่เราจะเปิดประเทศได้ใน 120 วัน อย่างเก่งคือ 50:50 อย่างที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า โอกาสจะไปอยู่ที่ในจุดนั้นน้อยมาก และหากวัคซีนมาช้า ภายในสิ้นปีก็อาจไม่ทัน และอาจทอดยาวถึงต้นปี หรืออาจจะถึงกลางปีหน้า เราต้องอดทนไปนานถึง 6 เดือน ถ้าโชคร้ายก็เป็นปี ในสถานการณ์ที่เป็นจริงเช่นนี้ รัฐบาลมีมาตรการอะไร เพื่อที่ประชาชนจะคลายความกังวลและสบายใจในการต่อสู้ได้บ้าง งบประมาณ 5 แสนล้านต้องใช้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งเพียงพอในระดับที่มีความน่าเชื่อถือ ต้องคิดให้รอบด้าน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนว่ารัฐคิดเผื่อไว้สำหรับสถานการณ์ที่อาจเลวร้าย จังหวะนี้ การเข้าถึงข้อมูลข้อเท็จจริง เรื่องของการสื่อสาร เรื่องของแนวโน้มโอกาส และการเตรียมมาตรการที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

พรรคกล้าขอเสนอ5ข้อ ดังนี้ 1.ควรเร่งเจรจากับ Platform online ที่ร้านอาหารทั้งหลายใช้เป็นช่องทางขายและจัดส่งอาหารอยู่ในปัจจุบัน ไม่ให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้บริการหรือ GP เกินร้อยละ15 2.ควรช่วยเหลือเยียวยาค่าจ้างเงินเดือนของพนักงานในร้านอาหารเหร้อยละ 50 ในช่วงที่รัฐบาลประกาศห้ามมีลูกค้านั่งในร้านอาหาร 

3.งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง 4.ผ่อนผันการผ่อนชำระเงินกู้และดอกเบี้ยของผู้ประกอบการร้านอาหาร ด้วยมาตรการงดผ่อนต้นผ่อนดอก ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน และ 5.ในกรณีที่ร้านอาหารมีค่าเช่าพื้นที่ เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เจ้าของพื้นที่ควรลดค่าเช่าให้ด้วย อย่างน้อยร้อยละ 50 และเจ้าของพื้นที่สามารถนำส่วนลดที่ให้กับร้านอาหารเหล่านั้น ไปขอลดหย่อนภาษีจากทางรัฐบาลได้ ในรอบบัญชีถัดไป เพื่อเป็นการชดเชยและลดค่าใช้จ่ายให้ร้านอาหารที่ต้องเสียค่าเช่าทุกเดือน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"