แฟ้มภาพ
29 มิ.ย.64 - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืนชื่อดัง เผยแพร่คลิปวีดีโอที่ตนได้วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปมท่าทีที่ใช้ในการแถลงข่าวล็อกดาวน์กรุงเทพฯ รวมถึงการห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งในช่วงท้ายคลิป ได้มีการวิเคราะห์กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มรวมตัวกันประท้วงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกว่า คงไม่สามารถสั่นคลอน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ เพราะกำลังของผู้ประท้วงมีไม่มาก เพราะยังไม่มีสาเหตุที่กระชากใจมากพอจนผู้คนแห่กันออกมาชุมนุม
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ เก่งมากในเรื่องแบบนี้ เช่น การให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองมาไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมกับชูประเด็นการทุจริตโครงการจำนำข้าว เพียงประเด็นเดียวแต่บาดใจจนคนพากันออกมาเป่านกหวีด เดินขบวนประท้วงกันจนเต็มถนน เรียกว่า มวลมหาประชาชน ในขณะที่ทุกวันนี้ทำไม่ได้ เพราะชุมนุมเกิน 20 คน ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวแล้ว
อนึ่ง ตนเชื่อการการชุมนุมในครั้งนั้นเป็นการสมคบคิดกันมา ไม่เช่นนั้นคงทำไมได้ขนาดนี้ แต่ตนก็เชื่อว่า วันนี้ นายสุเทพ อาจกำลังด่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ว่า ไม่น่าทำเลย เพราะทำแล้วแทนที่คนจะชมแต่กลายเป็นถูกด่า ถึงกระนั้น ตนก็ไม่เชื่อว่า นายสุเทพจะหันมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะนายสุเทพเป็นนักการเมืองขนานแท้ ถ้าไม่ได้ประโยชน์และไม่ได้จังหวะ ย่อมไม่ออกมาเคลื่อนไหว
“ถามว่า จังหวะนี้ใช่จังหวะไล่ไหม? คนทั่วไปอาจจะบอกว่า เบื่อ แต่ก็พูดกันเอง สามารถเอาคนมาลงถนนเต็มไปหมดแบบที่สุเทพทำไหม? ทำไม่ได้! เพราะอะไร? เพราะเป็นความโชคดีของประยุทธ์ไงที่มันมีโควิด คนก็กลัว คนมันก็กลัวโดยพื้นฐานอยู่แล้วไปร่วมชุมนุมเนี่ย! เพราะว่าคนเยอะๆ เดี๋ยวติดโควิด คือ โควิดนี่ช่วยชีวิตนะ และขณะเดียวกันโควิดก็ทำลายด้วย ทำให้เห็นธาตุแท้ว่า ประยุทธ์ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันนี้คือเรื่องสำคัญที่สุด ในภาวะผู้นำจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อมีวิกฤติ” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. ซึ่งปัจจุบันเป็นแกนนำกลุ่มไทยไม่ทน ประกาศว่า จะใช้เวลาต่อสู้ 3 เดือนเพื่อให้ได้รับชัยชนะ เรื่องนี้ตนไม่อยากขัดแย้งกับนายจตุพร หากทำได้ก็ถือว่า น่าชื่นชม เพราะสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำนั้นมันเหลืออดเหลือทนแล้ว แต่ 3 เดือนนี้มันต้องมีแรงขับดันอะไรสักอย่างหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ อาทิ ในยุคสมัยที่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ประเด็นการขายหุ้นชินตอร์ปให้กับเทมาเส็ก หรือรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ เรื่องทุจริตจำนำข้าว
แต่กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะโทษว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เกิดโรคระบาดก็ไม่ใช่ แถมหากรวมตัวกันมากๆ เดี๋ยวจะติดโรคกันอีก ตำรวจมาอ่านผิด พ.ร.บ. อีก หรือหากสมมติว่า ทำสำเร็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ ถูกกดดันจนยอมลาออก คำถามคือ หลังจากนั้นจะอย่างไรต่อ ไปสู่การเลือกตั้งใหม่ใช่หรือไม่ หรือมีใครที่จะมาเป็นนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีทางเลือกเพียงยุบสภากับเลือกนายกฯ ใหม่เท่านั้น หมายถึงพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะต้องมารวมตัวกันเพื่อหานายกฯ คนใหม่ แล้วจะเอาชนะองคาพยพต่างๆ ที่วางกันไว้ตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมาได้หรือ
“ที่เขาวางระบบข้าราชการไว้ทั้งหมด ทหารลำดับทั้งหมดที่เขาวางไว้ 7-8 ปี คุณคิดว่า คุณจะอยู่ได้นานไหม? เอาละ! งั้นเลือกตั้งไหม่! เลือกตั้งใหม่คุณต้องคิดว่า โอเค! ประยุทธ์กลับมา เอ้า! โอเคถ้าประยุทธ์ไม่กลับมา ท่านประยุทธ์ไม่กลับมา เอาละพอแล้ว ผมพอแล้วผมไม่เอาแล้ว ไล่ผมมากนักดีแล้วลองให้คนอื่นทำบ้าง คุณคิดว่า เขาจะเอาคนอื่นไหม? ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง 7-8 ปีนี้เขาไม่วางทายาทไว้หรือ? คุณรู้ไหมทายาทคือใคร? รู้ไหม? ผมไม่บอกด้วย แต่ไปเดาเอาเองละกัน เผลอๆ หนักกว่า ประยุทธ์อีก” นายชูวิทย์ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |