'ดร.เสกสกล'ฟาดปาก'ดร.ชลน่าน'ติดนิสัยนักการเมืองเลวๆทำตัวเป็นหมอข้าวนอกนา


เพิ่มเพื่อน    

29 มิ.ย.64-  นายเสกสกล  อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุ การบริหารประเทศล้มเหลว จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงและเลวร้ายที่สุด แพทย์รับมือไม่ไหว มีผู้ติดเชื้อล้นโรงพยาบาล ถึงขนาดระบบสาธารณสุขไทย ถึงจุดที่ต้องเลือกว่าจะให้คนไข้คนไหนได้ไปต่อว่า ความจริงแล้ว นพ.ชลน่าน ก็เป็นหมอ ก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ดีว่ามันรุนแรงขนาดไหน และน่าจะเห็นใจหมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อช่วยทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลาย น่าจะรับรู้ความรู้สึกได้ดี หรือนพ.ชลน่าน ไม่เคยได้ผ่านสถานการณ์ความยากลำบากที่บุคคลกรทางการแพทย์ได้เผชิญอยู่ จึงไม่ได้รับรู้ความรู้สึกนั้น เพราะแทนที่จะช่วยกันให้กำลังใจ แต่กลับมาทำตัวเป็น”ข้าวนอกนา” ไม่เข้าใจหัวอกหมอด้วยกันที่พยายามต่อสู้กับโควิดร้ายเพื่อเอาชนะให้ได้เพื่อให้ประชาชนสูญเสียน้อยที่สุด

ทุกคนรู้ดีว่าสถานการณ์ของโควิดมันรุนแรง แต่นายกฯก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาเตียงสนามให้เพียงพอจนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ยืนยันว่า ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้น่าตกใจถึงขนาดว่าต้องเลือกที่จะรักษาหรือไม่รักษาใคร เพราะคงไม่มีหมอคนไหนที่จะทำผิดจรรยาบรรณขนาดนั้น แต่ด้วยปัญหาผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น มากกว่าจำนวนผู้ที่หายป่วย จึงอาจทำให้มีปัญหาเรื่องเตียงบ้าง แต่ทางคุณหมอก็พยายามหาทางแก้ด้วยการให้ผู้ป่วยระดับสีเขียว หรือสีเหลือง ซึ่งหมายถึงติดเชื้อไม่มาก สามารถดูแลรักษาตัวเองที่บ้านได้ จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงที่อาจได้รับเชื้อที่โรงพยาบาลอีก ดังนั้นยืนยันระบบสาธารณสุขไม่ได้มีปัญหา และองค์การอนามัยโลก  (WHO ) ยังคงให้ความชื่นชมระบบสาธารณสุขของไทยอยู่  จึงขอน.พ.ชลน่าน อย่าอยากดังด้วยการเกาะกระแสโซเชียลฯบิดเบือนข้อเท็จจริงใส่ร้ายนายกฯและรัฐบาลมากเกินไป

ส่วนเรื่องของวัคซีนนั้น หากน.พ.ชลน่าน ติดตามข่าวก็น่าจะทราบดีว่าไทม์ไลน์ของวัคซีนแต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร ถึงไหนแล้ว การที่บอกว่า รัฐบาลผูกขาดวัคซีนไว้แต่เพียงผู้เดียว นั้น ความคิดนี้เหมือนเป็นความคิดของคนที่ไม่ได้ใช้สมองคิด นายกฯและรัฐบาลจะเอาชีวิตคนมาเป็นตัวประกันได้อย่างไร นายกฯไม่มีความคิดแบบนี้แน่นอน แต่ถ้าเป็นรัฐบาลในอดีตก็คงไม่แน่

"การพูดเช่นนี้เหมือนไม่ได้ติดตามข่าวที่ทางทีมศบค.และสาธารณุขได้แจ้งให้ทราบตลอดมาเป็นระยะๆหมอชลน่านหลบไปมุดอยู่รูไหนมาจึงตามข้อมูลไม่ทัน"

ยืนยันว่านายกฯไม่ได้เลี้ยงโควิด เพื่อรักษาอำนาจ ตามที่นพ.ชลน่าน บิดเบือน ทุกๆวันนายกฯ พยายามหามาตรการหรือแนวทางที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกวัน ไม่ได้หยุด แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภายนอกมากมาย กำลังใจนายกฯก็ยังดี เพื่อจะทำให้ประเทศไทยหายจากโควิดและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำประเทศก้าวเดินหน้าต่อไป และการที่มาเปรียบเทียบกับการแก้ปัญหาภาคใต้นั้น ตนคิดว่าน.พ.ชลน่าน คงต้องกลับไปค้นดูเหตุการณ์ในอดีตดีกว่า ใครที่พูดว่า “โจรกระจอก” จนทำให้สถานการณ์บานปลายมาจนถึงทุกวันนี้

"ผมสงสัยเหลือเกินว่าคนที่ชื่อหมอชลน่าน ยังมีจิตวิญญาณความเป็นหมอเหลืออยู่หรือไม่ ทำไมช่างกล้าออกมาพูดรายวันทำลายจิตใจคนวิชาชีพเดียวกัน แทนที่จะเห็นใจเข้าใจทีมหมอพยาบาลที่ทำงานเหนื่อยแสนสาหัส หรือว่าหมอชลน่านสละความความรู้สึกคำว่า หมอ ออก ไปจากชีวิตหมดแล้ว จึงไม่เหลือจิตวิญญาณคนที่เคยเป็นหมอมา คงจะเหลือแต่คราบนักการเมืองที่ดีแต่คิดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ติดนิสัยนักการเมืองเลวๆที่ดีแต่พ่นน้ำลายใส่คนอื่นรายวัน ไม่ได้คิดสร้างคุณค่าหรือทำประโยชน์อะไรช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตเดือดร้อนจากโควิดนี้เลยสักนิด"นายเสกสกล กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"