"บิ๊กตู่" ลั่นไม่หวั่นไหวม็อบชุมนุมไล่ จะทำให้ดีที่สุด ย้ำรัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว "บิ๊กป้อม" ไม่เข้าใจคนไล่รัฐบาล เผยนายกฯ แก้โควิดเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว  ขณะที่แกนนำไทยไม่ทนแจ้งความกองปราบฯ เอาผิดนายกฯ-ครม.ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจาก รธน.ที่ถูก คสช.ยกเลิก "จตุพร" เมินประกาศ ศบค. ปลุกประชาชนยืนร่ำไห้ไล่ที่หน้าทำเนียบฯ 29 มิ.ย. ไปศาลหลักเมือง 30 มิ.ย. นัดชุมนุมไล่อีกครั้ง 3 ก.ค.นี้
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามที่ว่านายกฯ หวั่นไหวหรือไม่กับการชุมนุมที่มีขึ้นด้วยในขณะนี้ โดยนายกฯ เอามือตบไปที่หน้าอกพร้อมกล่าวว่า “ผมจะหวั่นไหวอะไร ผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมไม่เคยหวั่นไหวอะไรทั้งสิ้น ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะทำของผมให้ดีที่สุด ตราบใดที่ผมยังทำได้ก็แค่นั้น ผมรักประชาชน รักอย่างเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ผมไม่ต้องการอะไรจากเขา มีอะไรให้ผมดูแลให้เขาได้มากที่สุด ผมก็จะร่วมมือกับทุกท่าน ทุกคนช่วยกันหมด
    "ณ ตอนนี้ วันนี้รัฐบาลช่วยกัน รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว เรื่องอื่นเรื่องสภาอะไรก็ว่ากันไป รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียวในการดูแลประชาชนตรงนี้ ซึ่งต้องมาดูผลงานที่ ครม.เขาทำมา เข้าใจหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีขณะนี้ประชาชนตำหนิและไม่พอใจรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่ดีว่า เราทำทุกอย่างที่จะไม่ให้โควิด-19 กระจาย คนไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างไร เพราะรัฐบาลก็เอาวัคซีนมาให้ และทำการฉีด รวมถึงป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 เราทำอย่าง และทุกประเทศก็เป็นอย่างนี้
    เมื่อถามว่า จนถึงวันนี้ยังมีเสียงให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อันนี้ผมไม่รู้เรื่อง” เมื่อถามย้ำว่า ในโซเชียลติดแฮชแท็กขับไล่นายกฯ จำนวนมาก จะให้กำลังใจอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “นายกฯ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวเรื่องกังวลถึงการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ทำให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกว่า เรามีหน้าที่สร้างความเข้าใจ และอย่านึกว่าเรื่องโควิดเป็นเรื่องที่แก้กันง่ายๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่แก้ง่าย มันยาก มันซับซ้อน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจ ตนคงไม่ต้องยกตัวอย่างของหลายประเทศ ซึ่งเขามีปัญหาทั้งนั้น เช่น วัคซีน การรักษาอาการก็มีปัญหา ประเทศชั้นนำก็ทราบดีว่ามีปัญหา ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขปัญหาไป และเราก็อยากให้ทุกคนได้รับความดูแล และอยากให้ทุกคนร่วมมือการป้องกัน
    วันเดียวกัน นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และหนึ่งในแกนนำไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
    โดยนายเศวตกล่าวว่า การประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงสถานการณ์ความรุนแรงของโรคโควิด-19 โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปี 2548 ซึ่งพ.ร.ก.ฉบับนี้เกิดขึ้นตามความในมาตรา 218 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2540 แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับนี้จึงต้องสิ้นสุดลงไปด้วย และการที่ พล.อ.ประยุทธ์บังคับใช้ข้อกำหนดต่างๆ จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย จึงมาร้องทุกข์ให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
    ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยไม่ทนฯ กล่าวว่า ในวันที่ 29 มิ.ย. คณะไทยไม่ทนมีความจำเป็นยื่นหนังสือ ในลักษณะคำประกาศที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ร่ำไห้อยู่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหัวเราะ ใครทุกข์เรื่องอะไร มายื่นหนังสือ มาส่งเสียงให้นายกฯ ได้ยิน การร่ำไห้อยู่ที่ร้านอาหาร ตลาด แคมป์ก่อสร้างอย่างเงียบๆ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้าใจว่าตัวเองเหนื่อยที่สุด ฉลาดที่สุดในโลก หากเราไม่ส่งเสียง จะมีมาตรการที่ตอกย้ำความเดือดร้อนของท่านออกมาเรื่อยๆ รวมถึง มาตรการที่ไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่ มาตรการที่สร้างความเดือดร้อนอย่างเป็นระบบให้กับพี่น้องประชาชน ออกมาตรการเช่นนี้ออกมา คนจนจะอยู่อย่างไร มีแต่ข้อห้าม ข้อกำหนด แต่ไม่คิดหยุดภาระของประชาชน ค่าน้ำ ค่าไฟ ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน การที่ออกมาในครั้งนี้ เพื่อที่จะหยุดยั้งมิคสัญญีที่จะเกิดขึ้น ความโกลาหลจลาจลด้วยความอดอยาก 
    "ขณะนี้ประเทศพังพินาศ ย่อยยับไปแล้ว พังโดยผู้ปกครองที่ไม่รับรู้ความทุกข์ยากของราษฎร เมื่อสถานการณ์การระบาดโควิด-19 มาถึงขนาดนี้ เกินมือพล.อ.ประยุทธ์แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ เหตุใดนายกฯ จึงยังไม่ขอพระราชทานพระราชวินิจฉัยรัชกาลที่ 10 ไหนว่าจงรักภักดีมากกว่าคนอื่น ปกป้องสถาบันฯ มากกว่าคนอื่น อยากบอกกับประชาชนว่า ประเทศนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ถ้าพี่น้องไม่ออกมาเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง ใครทุกข์ ก็ไปยื่นเรื่องความทุกข์ ไปร้องไห้ ร่ำไห้ ส่งเสียงให้นายกฯ ได้ยิน ในวันพุธที่ 30 มิ.ย. 13.00 น. คณะไทยไม่ทนจะเดินจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ไปยังศาลหลักเมือง ขอบารมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองคนไทย ให้พ้นจากผู้ปกครองที่ไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน" 
    นายจตุพรกล่าวอีกว่า วันเสาร์ที่ 3 ก.ค. แม้มีประกาศ ศบค.ฉบับที่ 25 แต่การนัดหมายของเรายังเหมือนเดิม ขอให้พี่น้องใส่แมสก์ พกแอลกอฮอล์ อย่าให้ประกาศนี้มาหยุดยั้ง นัดหมายของเรายังเหมือนเดิม วันดังกล่าวจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไป จะนอนรอความตาย หรือออกมาต่อสู้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่า 10 วันต่อจากนี้ไป อาจจะเป็น 10 วันสุดท้ายของอิสรภาพของตน อย่าให้รัฐบาลนี้สร้างความกลัวให้เกิดขึ้นได้สำเร็จ.